ดาวโจนส์ ปิดลบ 86.11 จุด จากแรงขายหุ้นแบงก์-อุตสาหกรรม

17 ส.ค. 2563 | 23:49 น.

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,844.91 จุด ลดลง 86.11 จุด หรือ -0.31% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,381.99 จุด เพิ่มขึ้น 9.14 จุด หรือ +0.27% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,129.73 จุด เพิ่มขึ้น 110.43 จุด หรือ +1.00%

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากคำสั่งขายหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มอุตสาหกรรม อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้รับแรงซื้ออย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมทั้งรายงานการประชุมเดือนก.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,844.91 จุด ลดลง 86.11 จุด หรือ -0.31% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,381.99 จุด เพิ่มขึ้น 9.14 จุด หรือ +0.27% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,129.73 จุด เพิ่มขึ้น 110.43 จุด หรือ +1.00%

หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 2.15% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ดิ่งลง 2.87% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ร่วงลง 2.64% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 2.36%

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลงและเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดดาวโจนส์ปิดในแดนลบ โดยหุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 3.41% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก ดิ่งลง 2.85% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ปรับตัวลง 0.9% หุ้น 3M ลดลง 0.83%

หุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ร่วงลง 2.9% หลังจากบริษัทประกาศแผนซื้อหุ้นจำนวนมากใน Kabbage ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านการเงินที่ปล่อยกู้ให้กับธุรกิจขนาดเล็ก

หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลงตามทิศทางหุ้นสายการบินในยุโรป เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาดทั่วโลก โดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ดิ่งลง 5.3% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ร่วงลง 4.9% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ร่วงลง 3.2%

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นำโดยหุ้น Nvidia ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ ปิดตลาดทะยานขึ้น 6.68% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัท Susquehanna International Group (SIG) ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้น Nvidia สู่ระดับ 540 ดอลลาร์ ขณะที่หุ้นแอมะซอนดอทคอม ดีดขึ้น 1.09% หุ้นไมโครซอฟท์ บวก 0.66% หุ้นอัลฟาเบท เพิ่มขึ้น 0.77%
          

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง โฮม ดีโปท์, วอลมาร์ท, ทาร์เก็ต คอร์ป และโคห์ลส์ คอร์ป

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานการประชุมของเฟดประจำวันที่ 28-29 ก.ค. ในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยและแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านพุ่งขึ้น 6 จุด สู่ระดับ 78 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเท่าที่เคยจัดทำข้อมูลดังกล่าว โดยการพุ่งขึ้นของดัชนีความเชื่อมั่นได้รับแรงหนุนจากความสนใจมากขึ้นจากผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองอยู่ในระดับต่ำ
          

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนส.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ค.จาก Conference Board, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนส.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนส.ค.จากมาร์กิต และยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค.