THG ปั้นSmart Hospital  ชูนวัตกรรมยกระดับการรักษาผู้ป่วย

16 ส.ค. 2563 | 14:22 น.

THG ชี้โลกหลังโควิด-19 ดันพฤติกรรมผู้ป่วยเปลี่ยนมาโรงพยาบาลน้อยลง พึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น ทุ่มเดินหน้าโรงพยาบาลในเครือสู่ Smart Hospital ชูจุดเเข็งนำ AI สนองบริการด้านการแพทย์

นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปหลังโควิด-19 และการเข้ามาของโลกยุคดิจิตอล ทำให้ทางกลุ่มมีนโยบายนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ใหม่ๆ เข้ามาให้บริการเพื่อเพิ่มศักยภาพและยกระดับโรงพยาบาลสู่ความเป็น Smart Hospital พร้อมทั้งสนองนโยบายของภาครัฐในการพาไทยก้าวสู่ความเป็นเมดิคัลฮับในภูมิภาค ภายใต้งบประมาณการลงทุนหลายร้อยล้านบาท ที่จะนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์เข้ามาใช้ในเครือโรงพยาบาลธนบุรี และเครือโรงพยาบาลรามคำแหงกว่า 40 แห่ง และขยายไปให้บริการโรงพยาบาลในเครือในต่างประเทศทั้ง เมียนมา กัมพูชา และ สปป.ลาวเป็นต้น ซึ่งขณะนี้ได้มีการดำเนินงานไปแล้ว 30% โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จ 100% ในสิ้นปี 2564

นพ.บุญ วนาสิน

“โลกหลังโควิด-19เทรนด์การดูแลรักษาสุขภาพจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างถาวร ในอนาตตคนจะมาโรงพยาบาลน้อยลง คาดว่าการให้บริการผู้ป่วยนอก (OPD) จะลดลง 50% ในปี 2564 ยกตัวอย่างเช่น ปัจจุบันอาจจะมีผู้มาใช้บริการโรงพยาบาล 8 ครั้ง แต่ในอนาคตจะลดเหลือการมาโรงพยาบาล 4 ครั้งขณะที่อีก 4 ครั้งจะเป็นรูปแบบของการให้บริการผ่านเทเลเมดิซีน และแน่นอนว่าเทรนด์ของเทเลเมดิซีน (TELEMEDICINE) คืออีกหนึ่งเทรนด์ที่มาแรง ดังนั้นการโฟกัสไปยังยุทธศาสตร์การให้บริการเทเลเมดิซีน ผ่านการพัฒนาdigital platform ต่างๆ คือสิ่งที่ทางกลุ่มมุ่งพัฒนา”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หมอบุญ บุก‘เฮลธ์แคร์’  พลิกโรงแรมรับสูงวัยต่างชาติ 

THG โชว์รายได้Q1ที่ 1,940 ลบ.โต 3.6%มั่นใจโควิดคลายคนไข้ใช้บริการ

 

ล่าสุด THG ได้ลงนามความร่วมมือกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในการจัดตั้ง “ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม Medical Services” ที่ รพ.ธนบุรี บำรุงเมืองขึ้น ด้วยต้องการสนับสนุนการวิจัยพัฒนาอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ เพื่อนำมาให้บริการในโรงพยาบาลในเครือของทางกลุ่ม เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพการให้บริการแก่คนไข้ ก่อนจะต่อยอดไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ในอนาคต ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในอุตสาหกรรมทางการแพทย์และสุขภาพให้แก่ประเทศอีกด้วย

 

“เทรนด์ของโรงพยาบาลในอนาคตจะต้องพัฒนาสู่ Smart Hospital นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์ต่างๆ เข้ามาใช้ เช่น ระบบ AI เป็นต้น เพื่อยกระดับบริการให้ก้าวหน้าล้ำสมัยสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล ช่วยให้คนไข้ที่อยู่ห่างไกลสามารถได้รับคำปรึกษาและเข้าถึงการรักษาได้ทันเวลา ขณะที่โรงพยาบาลสามารถให้บริการคนไข้ได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”

อย่างไรก็ตามปัจจุบันประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกและนำเข้าอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับต้นๆ ในอาเซียน โดยส่งออกปีละกว่า 107,700 ล้านบาท และนำเข้าปีละกว่า 66,500 ล้านบาท โดยภาพรวมของการส่งออกขยายตัวปีละเฉลี่ย 8-10% ซึ่งการขยายตัวดังกล่าวเป็นผลมาจากเทคโนโลยีด้านเฮลท์แคร์และเฮลท์เทค กำลังเป็นที่ต้องการจากทั่วโลกเพื่อยกระดับบริการทางการแพทย์และก้าวทันการเปลี่ยนแปลงในยุค New Normal 

 

หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,600 วันที่ 13 - 15 สิงหาคม พ.ศ. 2563