"ไอเอ็มเอฟ"ชี้ สหรัฐต้องมีมาตรการการคลังขนานใหญ่ เพื่อคุมโควิดและกระตุ้นศก.

11 ส.ค. 2563 | 04:52 น.

ไอเอ็มเอฟชี้สหรัฐต้องมีมาตรการทางการคลังขนานใหญ่เพิ่มเติม เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

คณะกรรมการบริหารของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยว่า สหรัฐต้องมีมาตรการทางการคลังขนานใหญ่เพิ่มเติมเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"ทรัมป์"ปลื้มดาวโจนส์พุ่งหลังลงนามคำสั่งขยายเวลาช่วยคนตกงาน

ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุ 20.2 ล้านราย เสียชีวิต 7.3 แสนราย

เปิดผล WHO ถอดบทเรียนป้องกันโควิดของไทย

5 ประเทศอาเซียนติดโควิด-19 รายใหม่สูงสุด "ฟิลิปปินส์"นำโด่ง

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะกรรมการบริหารของไอเอ็มเอฟ ระบุในแถลงการณ์หลังสรุปรายงาน Article IV ซึ่งเป็นรายงานทบทวนเศรษฐกิจประจำปีของสหรัฐว่า "ท่ามกลางภาวะที่ผู้ป่วยของโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้น ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง และการว่างงานที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้กรรมการบริหารเล็งเห็นความจำเป็นในการยกระดับความพยายามด้านสาธารณสุข พร้อมใช้นโยบายทุกอย่างเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวและบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจและสังคมสหรัฐ"
        

"พวกเขาเห็นพ้องกันว่า มาตรการทางการคลังขนานใหญ่เพิ่มเติมนั้นเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการยกระดับความพร้อมด้านสุขภาพ และกระตุ้นอุปสงค์ให้เพียงพอ รวมถึงเพิ่มการโอนย้ายจากรัฐบาลกลางสู่รัฐและรัฐบาลท้องถิ่น" คณะกรรมการบริหารระบุ พร้อมเสริมว่า การปรับงบการคลังในระยะกลางเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้หนี้สาธารณะของสหรัฐลดลงเมื่อควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างสมบูรณ์แล้ว

ไอเอ็มเอฟ คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลการคลังที่ไม่รวมรายจ่ายที่เกี่ยวกับภาระหนี้ (primary deficit) ของรัฐบาลกลางสหรัฐ จะเพิ่มขึ้นจากประมาณ 3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปีงบประมาณ 2562 สู่ระดับ 16% ของ GDP ในปีงบประมาณ 2563 และหนี้ของรัฐจะแตะระดับ 100% ของ GDP ภายในสิ้นปี 2563