ปตท.กำไรสุทธิQ2/63​ ลดลง 53.5%

10 ส.ค. 2563 | 14:39 น.

ปตท.เผยทำกำไรสุทธิไตรมาส2/63 ที่ 12,053 ลบ. ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 53.5%  แต่เทียบไตรมาส1/63 กำไรเพิ่ม13,607 ล้านบาท หรือกว่า 100%

บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. นำส่งงบการเงินเฉพาะบริษัทและงบการเงินรวมสำหรับงวด 3 เดือน และงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งผ่านการสอบทานจากผู้สอบบญชีและได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการตรวจสอบของ ปตท.แล้ว โดยผลการดำเนินงานตามงบการเงินรวม เป็นดังนี้

 

โดยในไตรมาส 2 ปี 2563 (2Q2563) ปตท. และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขาย จำนวน 341,325 ล้านบาท และมี กำไรสุทธิจำนวน 12,053 ล้านบาท

 

ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2563 เปรียบเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2562

 

เมื่อเปรียบเทียบกับ ไตรมาส 2 ปี 2562 (2Q2562) ปตท.และบริษทัย่อยมีรายได้ลดลงจำนวน 228,997 ล้านบาท หรือร้อยละ 40.2 จากทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งจากราคาขายเฉลี่ยและปริมาณขายเฉลี่ยที่ลดลง ตามกล่าวข้างต้น EBITDA ลดลง 19,596 ล้านบาท หรือร้อยละ 26.6  สาเหตุหลักจากธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่มีผลการดำเนินงานลดลงตามราคาขายและปริมาณการขายที่ปรับตัวลดลง แม้ในไตรมาสนี้จะมีปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นของโครงการมาเลเซียและกลุ่มพาร์เท็กซ์ (Partex) ซึ่งรับรู้ผลการดำเนินงานจากการเข้าซื้อธุรกิจตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2562 และไตรมาส 4 ปี 2562 ตามลำดับ

 

รวมถึงกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่มีผลการดำเนินงานลดลงโดยหลักจากธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ เนื่องจากราคาขายที่ลดลงตามราคาอ้างอิงในตลาดโลกที่ลดลงและปริมาณขายที่ลดลงตามการปิดซ่อมบำรุงและการปรับลดกำลังการผลิตดังกล่าวข้างต้น  และธุรกิจจค้นหาและจัดจำหน่ายก๊าซฯ เนื่องจากปริมาณขายโดยหลักจากกลุ่มลูกค้าโรงไฟฟ้าลดลง และราคาขายอ้างอิงราคาน้ำมันเตาลดลง และกลุ่มธุรกิจน้ำมันมีผลการดำเนินงานลดลงจากปริมาณขายที่ลดลงซึ่งเป็นผลกระทบจาก COVID-19

 

อย่างไรก็ตามกลุ่มธุรกจิการค้าระหว่างประเทศมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นโดยหลักจากการรักษาความสามารถในการสร้างผลกำไรและเพิ่มโอกาสทางการค้าข้ามทวีปและข้ามภูมิภาคในภาวะตลาดเอื้ออำนวย (Arbitrage Opportunity) ภายใต้การควบคุมความเสี่ยงทุกด้านอย่างรัดกุม และกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นมี EBITDA ที่ดีขึ้นจากกำไรสต๊อกน้ามัน/ใน 2Q2563 ตามราคาน้ำามันดิบที่ปรับเพิ่มข้ึนดังกล่าวข้างต้น แม้ว่า Market GRM ปรับลดลงตามส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมกับน้ามันดิบส่วนใหญ่ที่ลดลง อีกทั้งส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีส่วนใหญ่ปรับตวัลดลงเช่นกัน

 

ปตท. และบริษัทย่อยใน 2Q2563 มีกำไรสุทธิลดลงจำนวน 13,885 ล้านบาท หรือร้อยละ 53.5 ตาม EBITDA ที่ลดลงและมีขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับมีการรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพยข์องธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในไตรมาสนี้แม้ว่ามีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินกู้สกุลต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นตามค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับ เงินเหรียญสหรัฐฯ และค่าใชจ้่ายภาษีเงินไดที่ลดลง โดยหลักจากภาษีเงินไดข้องธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมตามที่กล่าวข้างตน

ผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2563 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562

 

ในช่วงครึ่งแรกของปี2563 (1H2563) ปตท. และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายลดลงจากช่วงครึ่งแรกของปี 2562 (1H2562) จำนวน 296,304 ล้านบาท หรือร้อยละ 26.4 จากเกือบทุกกลุ่มธุรกิจ ตามราคาขายเฉลี่ยและปริมาณขายเฉลี่ยที่ลดลง ยกเว้นกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเข้าซื้อ บมจ. โกลว์พลังงาน (GLOW) ของ GPSC ในช่วงปลายไตรมาส 1 ปี 2562 (1Q2562) ใน 1H2563 ปตท.และบริษัทย่อยมี EBITDA ลดลง 67,734ล้านบาท หรือ ร้อยละ 43.9จาก 1H2562

 

สาเหตุหลักจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นที่มีขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันใน 1H2563 ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงอย่างมากจาก ณ สิ้นปี 2562 ที่ 67.3 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 42.1 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ณสิ้น 1H2563 เนื่องจากสงครามราคาน้ำมัน สภาวะอุปทานล้นตลาดของน้ำมันดิบ ประกอบกับความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีลดลงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจเนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดย Market GRM ปรับลดลงจากส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปกับน้ำมันดิบที่ลดลงในเกือบทุกผลิตภัณฑ์ และส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีทั้งสายโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์ส่วนใหญ่ปรับลดลงเช่นกัน

 

นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลการดำเนินงานลดลง โดยหลักจากธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ เนื่องจากราคาขายที่ลดลงตามราคาอ้างอิงในตลาดโลกที่ลดลงและปริมาณขายที่ลดลง ตามการปรับลดกำลังการผลิต และปิดซ่อมบำรุงดงักล่าวข้างต้น และธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายก๊าซฯ เนื่องจากราคาขายอ้างอิงราคาน้ำมันเตาที่ลดลงและปริมาณขายให้กลุ่มลูกค้าไฟฟ้าลดลงขณะที่ผลการดำเนินงานของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมปรับลดลงตามราคาขายเฉลี่ยที่ปรับตัวลงแม้ปริมาณการขายจะเพิ่มขึ้น โดยหลักจากโครงการมาเลเซียและกลุ่ม Partex

 

สำหรับกลุ่มธุรกิจน้ำมันมีผลการดำเนินงานลดลงเช่นกัน สาเหตุหลักจากขาดทุนสต๊อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นและปริมาณขายที่ลดลงจากผลกระทบของ COVID-19 อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานของกลุ่มเทคโนโลยีและวิศวกรรมปรับตัวดีขึ้นจากการเข้าซื้อ GLOW ของ GPSC ในช่วงปลาย 1Q2562 อีกทั้งกลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นโดยหลักจากการรักษาความสามารถในการสร้างผลกำไรและเพิ่มโอกาสทางการค้าข้ามทวีปและข้ามภูมิภาคในภาวะตลาดเอื้ออำนวย(Arbitrage Opportunity) ภายใต้การควบคุมความเสี่ยงทุกดา้นอย่างรัดกุม

ปตท. และบริษทั ย่อยมีกำไรสุทธิใน 1H2563 จำนวน 10,499 ล้านบาท ลดลง 44,751 ล้านบาท หรือร้อยละ 81.0 จากใน 1H2562 ตาม EBITDA ที่ลดลงรวมถึงค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจสำรวจ/และผลิตปิโตรเลียม และของธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวข้างต้นรวมถึงใน 1H2563 มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากลดลงเงินกู้สกุลต่างประเทศตามค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐฯ และมีการรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพยข์องธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม แม้ว่าจะมีกำไรจากตราสารอนุพันธ์เพิ่มขึ้นและค่าใชจ่ายภาษีเงินไดที่ลดลงตามผลการดา เนินงานที่ลดลงเป็นหลัก...อ่านรายละเอียด