จี้ถอนข้อกล่าวหา “ทนายอานนท์-ไมค์ จาดนอก”

08 ส.ค. 2563 | 04:53 น.

แอมเนสตี้  เรียกร้องถอนข้อกล่าวหา “ทนายอานนท์-ไมค์ จาดนอก” หลังถูกจับกุม

จากกรณีที่มีการจับกุมทนายอานนท์ นำภา และภานุพงศ์ หรือไมค์ จาดนอก (ไมค์ ระยอง) นักกิจกรรมที่เป็นแกนนำคนสำคัญสองคนในการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมาในวันนี้ และมีรายงานข่าวว่ามีการออกหมายจับแกนนำผู้ชุมนุมคนอื่นเพิ่มเติม

 

นางปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผยว่า การออกหมายจับและตั้งข้อกล่าวหาทั้งสองคนคือทนายอานนท์ นำภา และนายภานุพงศ์ หรือไมค์ จาดนอก  นับเป็นปฏิบัติการที่ไม่ได้สัดส่วนอย่างสิ้นเชิงอีกครั้งหนึ่งของตำรวจไทยเพื่อปราบปรามการใช้สิทธิในเสรีภาพการชุมนุมโดยสงบ โดยมีเป้าหมายอย่างชัดเจนว่าเพื่อข่มขู่ผู้ที่จะเข้าร่วมการชุมนุมในช่วงสุดสัปดาห์นี้ 

 

“หลังที่ต้องเผชิญหน้ากับการถูกคุกคามมาหลายเดือน ในตอนนี้ทนายอานนท์และไมค์ ภานุพงศ์ ยังจะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาอาญาร้ายแรงถึง 8 ข้อกล่าวหา เพียงเพราะใช้สิทธิในเสรีภาพการชุมนุมโดยสงบ”

  จี้ถอนข้อกล่าวหา “ทนายอานนท์-ไมค์ จาดนอก”

นอกจากจะต้องถอนข้อกล่าวหาที่ปราศจากมูลความจริงเช่นนี้แล้ว แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลยังเรียกร้องทางการไทยให้การประกันว่าจะมีการคุ้มครอง รักษาความมั่นคงปลอดภัย ไม่ให้มีการตอบโต้เอาคืนกับบุคคลใดก็ตาม ซึ่งมีชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการชุมนุมอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลุ้นศาลขอ"ฝากขัง"2แกนนำเยาวชนปลดแอก

ช่วย "ทนายอานนท์ นำภา" ก้าวไกลใช้ตำแหน่ง ส.ส. ประกันตัว

ทั้งนี้ในวันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม ตำรวจได้จับกุมทนายอานนท์ นำภา ด้านหน้าที่พักของเขาในกรุงเทพฯ และจับกุมภานุพงศ์ จาดนอก หรือ “ไมค์” ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ทั้งสองคนอยู่ระหว่างการส่งตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา รัชดาฯ ส่วนแกนนำนักศึกษาอีกคนหนึ่งคือ พริษฐ์ ชีวารักษ์ ซึ่งเป็นสมาชิกของสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย ถูกออกหมายจับเช่นกัน

 

ทนายอานนท์และไมค์ ภานุพงศ์อาจได้รับโทษจำคุกเจ็ดปี ตามข้อหาต่าง ๆ รวมทั้งยุยงปลุกปั่นเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน มั่วสุมกันใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, 215, 385 ตามลำดับ

 

ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ความผิดตามพ.ร.บ. โรคติดต่อฯ มาตรา 34 (6) ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะเป็นความผิดตามมาตรา 114 พ.ร.บ.จราจรทางบก ความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ มาตรา 19 และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง และร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดตามมาตรา 4 ของพ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ โดยใช้เครื่องขยายเสียง รายงานข่าวระบุว่า ยังจะมีการทยอยออกหมายจับผู้ประท้วงคนอื่น ๆ ในข้อหาเดียวกันด้วย