“ครม.ตู่2/2” ตอบโจทย์การเมือง ตีกันขุมทรัพย์พลังงาน

07 ส.ค. 2563 | 11:55 น.

“ครม.ตู่2/2” ตอบโจทย์การเมือง ตีกันขุมทรัพย์พลังงาน : คอลัมน์อยู่บนภู ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3599 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 9-12 ส.ค.2563 โดย... กระบี่เดียวดาย

“ครม.ตู่2/2

ตอบโจทย์การเมือง

ตีกันขุมทรัพย์พลังงาน
 

     ในที่สุดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ได้ตัวครม.ประยุทธ์ 2/2 มีชื่อรัฐมนตรีเข้าใหม่ 6 คน แต่ตั้งตำแหน่งเพิ่มรวมเป็น 6 คน 8 ตำแหน่ง
 

     1.ปรีดี ดาวฉาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 2.สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน 3. อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 4.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่ากระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม5.สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน 6.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน และ ดอน ปรมัตถ์วินัย เป็นรองนายกรัฐมนตรี อีกตำแหน่งหนึ่ง
 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี 7 ราย
ปรับครม.เพื่อใคร
ปรับครม. อย่าให้ร้อง “ยี้”
ปรับครม. แรงกดดัน จากพลังประชารัฐ
 

     โฟกัสที่ สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ อดีตผู้บริหาร ปตท. พีทีทีจีซี เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีอยู่ก่อนแล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยเรียกใช้งานเป็นชิ้นเป็นอันสักเท่าไหร่ เพิ่งมาพักหลังที่ไปช่วยเสริมทีมในการทำแผนฟื้นฟูการบินไทย

     แต่ที่คอการเมืองจับตาสำหรับตำแหน่งนี้ เพราะเป็นที่หมายปองของกลุ่มการเมืองในพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เดิมทีเดียวคาดกันว่าจะดำรงตำแหน่งแค่รัฐมนตรีพลังงาน แต่กลับกลายเป็นว่าควบรองนายกรัฐมนตรี
 

     หมากเกมนี้แยบยลพอสมควรของนายกฯ
 

     แน่นอนการตั้งให้ควบตำแหน่งรองนายกฯด้วย นั่นหมายความว่า สุพัฒนพงษ์ ดูแลงานตลอดสายและขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี โดยไม่ต้องผ่านรองนายกรัฐมนตรีคนอื่น เพราะพ่วงตำแหน่งรองนายกฯ ไปด้วย
 

     อาจจะเป็นเพราะนายกฯเอง ก็เล็งเห็นว่ากระทรวงนี้ มีเรื่องที่เกี่ยวพันผลประโยชน์มหาศาล เป็นที่จับตามองของประชาชนอย่างยิ่งยวด จึงไม่ต้องการให้การเมืองเข้ามายุ่งเกี่ยวควบคุมกำกับสั่งการทางตรง จึงต้องกันให้ห่างจากกลิ่นอายทางการเมือง
 

     ถ้ายังจำกันได้ แรกเริ่มเดิมทีในคราวตั้งครม.ประยุทธ์ 2 และในการแบ่งงาน ควบคุมกำกับ สั่งการ เคยมีเสียงเรียกร้องให้ “พี่ใหญ่” มาคุมกระทรวงพลังงาน แทน สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ สมัยนั้นมาแล้ว แต่ไม่สำเร็จ มาคราวนี้การตั้งควบรองนายกฯ ให้ สุพัฒนพงษ์ ก็ชี้ให้นักวิ่งเต้นทั้งหลายเห็นว่าจะต้องเดินไปตรงไหน
 

     นอกจากเป็นอดีตผู้บริหารปตท.แล้ว สุพัฒนพงษ์ ยังทำงานใกล้ชิดกับองค์กรภาคเอกชนมานาน ซึ่งนายกฯ คงหวังพึ่งวิสัยทัศน์ การประสานงานที่รื่นไหลไม่ติดขัด เป็นความคาดหวังจากภาคเอกชน รวมไปถึงการทำงานร่วมกับ ปรีดี ดาวฉาย รัฐมนตรีคลัง ที่มีภารกิจหนักในการประคองและฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากพิษโควิด ที่อาการร่อแร่รวยริน โดยเฉพาะธุรกิจของคนตัวเล็กตัวน้อย ที่ร่วงล้มหายตายจากไม่เว้นแต่ละวัน
 

     การตั้ง ดอน ปรมัตถ์วินัย ควบรองนายกฯอีกตำแหน่งหนึ่ง ตามที่นายกฯอธิบายต้องการอัพเกรดให้กระทรวงการต่างประเทศ สามารถดำเนินการในเรื่องของธุรกิจ เศรษฐกิจ ไปด้วย คิดว่าบางอย่างจะมอบหมายให้ช่วยและในการเดินทางไปต่างประเทศ สามารถที่จะเป็นตัวแทนนายกฯ ในการพูดคุยเจรจาในเวทีต่างๆ ก็พอรับฟังได้และสมเหตุสมผล

     ส่วนครม.ประยุทธ์ 2/2 ตำแหน่งอื่นนั้น ชัดเจนว่าเป็นการตอบโจทย์ทางการเมือง มากกว่าการแก้ปัญหาวิกฤติประเทศ ซึ่งนายกฯเองก็ยอมรับมาก่อนหน้านี้
 

     แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะอธิบายความในการตั้ง นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นรมช.แรงงาน ว่า อยากให้กระทรวงแรงงานเป็นกระทรวงเศรษฐกิจอีกกระทรวงหนึ่ง เพราะเรามีการจ้างงานจำนวนมาก เราจึงต้องมีคำตอบ การมีงานทำมากขึ้น ข้อมูลต่างๆ มีเยอะมาก สิ่งสำคัญอยากให้มีคนไทย ได้ทำงานบางประเภทบ้าง อัพเกรดตัวเองให้ขึ้นมาเป็นหัวหน้า ไม่ใช่อยู่เฉพาะแรงงานที่หลายคนไม่อยากทำ และนี่คือความจำเป็นในการจ้างแรงงานต่างด้าว เรื่องค่าจ้างมีผลต่อการประกอบธุรกิจทั้งสิ้น
 

     ดังนั้น​ คนไทยต้องอัพเกรดตัวเองให้มีความรู้​ มีการฝึกอบรมเพื่อตัวเองให้เป็นหัวหน้าให้ได้ ไม่เช่นนั้นพอเป็นงานระดับล่างทุกคนก็ไม่อยากทำ โดยเฉพาะแรงงานไร้ฝีมือ อย่างวันนี้รัฐบาลก็เปิดโครงการการจ้างงานมากขึ้น ขอร้องว่าอย่าเลือกงานในตอนนี้กันมากนัก ขอให้มีรายได้เลี้ยงครอบ ครัว ในส่วนมาตรการการเงินการคลังสมัยเก่าและสมัยใหม่ก็มีการผ่อนคลายไปหมดแล้ว เพียงแต่ต้องระวังในวันข้างหน้าว่าจะหาเงินมาจากไหนเข้ามาในระบบเพื่อดูแลเรื่องเงินกู้ รวมทั้งเงินที่จะต้องใช้จ่ายต่อไป
 

     ไพล่ไปยาวยืดเรื่องอื่นๆ !!
 

     เรียกว่ากล้อมแกล้มในการอธิบายกันไป แต่เป็นที่ทราบกันดี นฤมล พาสชั้นขึ้นตำแหน่งรัฐมนตรีด้วยใคร แม้กระทั่งคนในพปชร.ที่คิดว่าตัวเองถึงคิว มีส.ส.หนุนหลัง ก็ถามไถ่เซ็งแซ่
 

     ตำแหน่งของ อนุชา กับ สุชาติ นั้นแน่นอน ด้วยพลังของขุมกำลังในพรรค ที่เป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งต้องคอยดูผลงาน 2 คนแสดงฝีมือ
 

     เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ดูจะถูกตั้งคำถามน้อยที่สุด ในแง่ความเหมาะสมในการเข้าสู่ตำแหน่งและเรื่องอื่นๆ แม้เอนกจะถนัดในงานวิชการการเชิงการเมืองก็ตาม แต่การตั้งไปคุมอุดมศึกษา นวัตกรรม ด้วยภาพวิชาการก็มีความเหมาะสมและเป็นไปได้
 

     ดูหน้าตาครม.บิ้กตู่ 2/2 แล้ว ไม่มีเสียงครางฮือฮา มีแต่เสียงบ่นว่าจะไหวหรือ
 

     ปรับครม.ตอบโจทย์ใคร ไหว-ไม่ไหว ไม่นานรู้ แต่ที่รู้แน่ๆ ครม.ชุดใหม่ของบิ๊กตู่ กับปัญหาที่กองตรงหน้า
 

     ทำให้ไม่มีเวลาฮันนี่มูน แม้แต่วันเดียว!!