คอนโดฯหรูกลางเมือง  เป้าหมายใหม่ คนต่างชาติ

14 ส.ค. 2563 | 02:25 น.

 

 

ผ่ามุมคิด

การพัฒนาที่ดินเก่ากลุ่มดุสิตธานี พลิกโฉมเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” มูลค่ารวม 3.67 หมื่นล้านบาท บนพื้นที่ 23 ไร่ ใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพ มหานคร โดยกำหนดแล้วเสร็จโซนแรก ช่วงปี 2566 นั้น นอกจากจะรื้อสร้างไอคอนใหม่ ในแง่โรงแรมดุสิตธานี ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และการจับไม้จับมือกับกลุ่มค้าปลีกใหญ่อย่าง ซีพีเอ็น สานต่อในธุรกิจรีเทลและออฟฟิศบิวดิ้งแล้ว การสร้างที่พักอาศัย (เรสซิเดนท์) เป็นครั้งแรกของกลุ่มดุสิตฯ เพื่อรองรับคนที่ต้องการใช้บริการของดุสิต ก็ยังเป็นอีกสปอร์ตไลท์ที่น่าจับตาในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ไม่น้อย ตั้งแต่ในแง่สุดยอดทำเลที่ตั้ง ไปจนถึงรูปแบบ การตอบรับของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และการแข่งขันบนถนนพระราม 4 ท่ามกลางสภาวะที่ตลาดคอนโด มิเนียม ไม่ว่าเซ็กเมนต์ไหนก็ตามกำลังอิ่มตัว รอปรับฐานใหม่ 

ศุภจี  สุธรรมพันธุ์ 

อย่างไรก็ตาม  นางศุภจี  สุธรรมพันธุ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุ เชื่อมั่นในฐานลูกค้าแฟนคลับทั้งคนไทยและคนต่างชาติ สบโอกาสโควิด-19 ดันมาตรฐานสาธารณสุขไทยขึ้นแท่น ขณะเมืองเป้าหมายลงทุน อสังหาฯอย่างฮ่องกง ระส่ำ กลายเป็นจังหวะตลาดซูเปอร์ลักชัวรีคอนโดฯของไทยคึกคัก นำร่องส่ง “รูฟพาร์ค” ดูดความสนใจคนทั่วโลก 

 

ตีตลาดคอนโดซูเปอร์ลักชัวรี

คอนเซ็ปต์ของโครงการที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ส่วนประกอบสำคัญของโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” จะอยู่ในรูปแบบของคอนโดมิเนียม ลีสโฮลด์ สัญญาเช่า 30 ปี (ต่ออีก 30 ปี) เน้นความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย และให้บริการมาตรฐานโรงแรมระดับสากลซึ่งเป็นจุดเด่นของเรา พื้นที่รวมทั้งสิ้น 8 หมื่นตารางเมตร ความสูง 69 ชั้น ผ่าน 2 แบรนด์ คือ ดุสิต เรสซิเดนเซส จำนวน 159 ยูนิต และ ดุสิต พาร์คไซด์ อีก 230 ยูนิต คาดกำหนดแล้วเสร็จ ในช่วงปี 2567 ต่อเนื่องจากส่วนโรงแรมที่จะเปิดให้บริการเป็นส่วนแรก โดยจะมีจุดแข็ง อยู่ที่โลเคชั่นที่ตั้ง หัวมุมถนนสีลม เปิดรับวิวมุมสูงของสวนลุมพีนีใจกลางเมือง ซึ่งหาได้ยาก มีห้องขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 60 ตร.มขึ้นไป ตีตลาดในเซกเม้นท์ซูเปอร์ลักชัวรีคอนโดฯ โดยถือว่ามีแนวโน้มการแข่งขันสูงในอนาคต จากซัพพลายเดิม และซัพพลายใหม่ที่จะเติมเข้ามาผ่านโครงการมิกซ์ยูสอื่นๆที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ตลอดแนวถนนพระราม 4 และใจกลางเมืองอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันมีราคาสูงสุดอยู่ที่ 7 แสนบาทต่อตร.ม แต่อย่างไรก็ตาม คาดทั้ง 2 แบรนด์ จะได้เปรียบ จากราคาที่อยู่ในระดับประมาณ 3 แสนกว่าบาทต่อตร.ม เท่านั้น พร้อมเชื่อมั่นว่า ตลาดคอนโดฯซูเปอร์ลักชัวรี ยังมีโอกาสไปต่อได้ จากดีมานด์ที่ไม่เคยตก ท่ามกลางความท้าทายของสภาวะเศรษฐกิจ กำลังซื้อ และตลาดคอนโดฯโดยรวมชะลอตัวก็ตาม

“เป็นโครงการแรกที่เราบุกเบิกเรื่องอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายด้านที่อยู่อาศัย เพื่อต้องการให้ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด ซึ่งแม้คอนโดฯทั่วไป อาจไม่ใช่จังหวะในการเปิดใหม่ และท้าทายอยู่มาก แต่เชื่อว่าทั้ง 2 แบรนด์ จะตอบโจทย์ผู้ซื้อซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายได้ ผ่านดีไซน์รายละเอียดที่ลึก ขณะที่ตลาดซูเปอร์ลักชัวรีคอนโดฯ ศึกษาแล้ว ยังมีดีมานด์ จากทั้งกลุ่มคนไทย และคนต่างชาติ ที่เป็นทั้งเรียลดีมานด์ และซื้อเพื่อการลงทุน จึงไม่มีความกังวลมากนัก” 

 

โควิดพลิกโอกาส

ความน่าสนใจของตลาดซูเปอร์ลักชัวรีคอนโดฯ ของไทยในขณะนี้ ยังเกิดขึ้นจาก 2 กลุ่มผู้ซื้อใหญ่อย่างมีนัยยะน่าสนใจ คือ 1.ความต้องการที่มีมากขึ้นของกลุ่มผู้รักสุขภาพ (Health and  Wellness) หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของๆไวรัสโควิด-19 กลายเป็นจุดเปลี่ยนภาพลักษณ์ของประเทศไทย ในแง่การบริหารรับมือจัดการกับโรคได้อย่างดี จนทั่วโลกให้การยอมรับชื่นชม ทั้ง อันดับ 2 ของโลก และอันดับ 1 ของเอเชีย 2.ความไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลงในฮ่องกง กลายเป็นจังหวะและโอกาสของอสังหาฯไทย ในแง่ความต้องการย้ายถิ่นฐานที่อยู่อาศัย ซึ่งไทย ขณะนี้ ถือเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆ ที่ถูกมองว่าปลอดภัยในด้านสุขอนามัยและน่าอยู่อาศัยในระยะยาวมากที่สุด โดยเฉพาะ ในกลุ่มโปรดักต์ระดับบน โลเกชันใจกลางเมือง 

 

 

จีน-ฮ่องกงหนุนยอดจอง 22%

นางศุภจี  ยังกล่าวว่า ความร้อนแรงของดีมานด์ดังกล่าว นำมาซึ่งยอดจองวางเงินในคอนโดฯทั้ง 2 โครงการแล้วถึง 22 % จากจำนวนห้องทั้งหมด 389 ยูนิต แม้ เซลล์ แกลเลอรี่ ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ และยังไม่มีการเปิดพรีเซลอย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ โดยส่วนใหญ่ ผู้ซื้อเป็นกลุ่มคนไทย ขณะอีกส่วนมาจากผู้ซื้อชาวจีน และ ฮ่องกง ซึ่งล้วนเป็นฐานแฟนคลับของโรงแรมดุสิตธานีมายาวนาน ผ่านความมั่นใจในมาตรฐานการบริการที่โครงการจะมอบให้และความชื่นชอบเป็นทุนเดิม ขณะสัดส่วนผู้พักอาศัยโครงการ 60 % วางกลุ่มเป้าหมาย เป็นคนไทย และอีก 40 % เจาะกลุ่มผู้ซื้อต่างชาติ

“จากการสำรวจตลาด และข้อมูลที่ได้จากเอเยนซี่ พบทั้ง 2 โครงการ เป็นที่สนใจและได้รับการตอบรับสูงจากกลุ่มผู้ซื้อคนจีน และฮ่องกง  โดยมีการวางเงินจอง ติดต่อเข้ามามาก ส่วนโควิดเอง ได้กลายเป็น 1 ในปัจจัย ให้หันกลับมาดูในเรื่องฟังก์ชัน สุขอนามัย ความปลอดภัยที่รองรับผู้อยู่อาศัยมากขึ้น”

 

รูฟพาร์คเรียกแขก

 

ทั้งนี้ ล่าสุดจากการเปิดโฉมของรูฟพาร์ค สวนสาธารณะลอยฟ้า ซึ่งจะเป็นพื้นที่สีเขียวของโครงการ จากดาดฟ้าชั้น 3 ต่อเนื่องถึงชั้น 7 ความสูงรวม 20 เมตร พื้นที่รวมทั้งสิ้น 7 ไร่ เชื่อมต่ออาณาจักรของสวนลุมพีนี เชื่อว่า นอกจากจะทำให้โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ได้รับการจดจำในระดับสากลในฐานะตึกไอคอนิคแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานครแล้ว ยังจะเป็นอีกจุดขายสำหรับโครงการที่อยู่อาศัยด้วย จากความสามารถที่คาดว่า จะดึงดูดคนจากทั่วโลกให้ต้องมาเยือน เพราะเป็นได้ทั้งจุดหมายการท่องเที่ยว และเป็นพื้นที่สาธารณะที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ใหม่ของคนเมือง 

 

หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40  ฉบับที่ 3,599 วันที่ 9 - 12 สิงหาคม พ.ศ. 2563