“ไมโครซอฟท์” ชูเทคโนโลยีหนุนวัยแรงงานอัพสกิลดิจิทัล

04 ส.ค. 2563 | 11:49 น.

ไมโครซอฟท์ ชูเทคโนโลยีหนุนวัยแรงงานอัพสกิลดิจิทัล พร้อมเผย 5 เทรนด์เทคโนโลยีหลังโควิด-19

       นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด  เปิดเผยว่า  เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างหนัก เช่นเดียวกับประเทศไทยที่มีการคาดการณ์ว่าในปี 2563  GDP จะติดลบถึง 6.7% ส่งผลให้ปริมาณงานที่มีลดลง แต่ทั้งนี้ก็มีโอกาสใหม่ๆ เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน โดยในปี 2563 ทั่วโลกมีงานด้านดิจิทัลกว่า 41 ล้านงาน และในปี 2568 คาดการณ์ว่าปริมาณงานด้านดิจิทัลจะเพิ่มขึ้นเป็น 190 ล้านงานทั่วโลก ซึ่งประเภทของงานที่เพิ่มขึ้นได้แก่ นักพัฒนาซอฟต์แวร์ , คลาวด์และดาต้า, การวิเคราะห์ข้อมูล แมชชีน เลิร์นนิ่งและเอไอ, ไซเบอร์ ซิเคียวริตี้ และข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ไมโครซอฟท์ จึงได้เปิดตัวโครงการใหม่ระดับโลกเพื่อเสริมสร้างทักษะแรงงาน โดยมีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาทักษะเชิงดิจิทัลเพิ่มเติมให้กับผู้คนจำนวนกว่า 25 ล้านทั่วโลกภายในสิ้นปีนี้ และสำหรับในประเทศไทย ไมโครซอฟท์พร้อมที่จะนำเทคโนโลยีและหลักสูตรต่าง ๆ  อาทิ Microsoft Learn, LinkedIn Learning การสอบประกาศนียบัตร Microsoft Office Specialist และอื่น ๆ มาปรับใช้ภายใต้ความร่วมมือกับทั้งหน่วยงานภาครัฐและพันธมิตรในภาคเอกชน 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ไมโครซอฟท์หนุนธุรกิจ ปรับตัวรับโควิดคลี่คลาย

ไมโครซอฟท์ เสริมทักษะเชิงดิจิทัล 25 ล้านคน เพิ่มโอกาสการจ้างงาน

   หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมาไมโครซอฟท์ ได้เน้นแนวคิดเรื่อง Tech Intensity หรือการขับเคลื่อนศักยภาพในการสร้างสรรค์นวัตกรรมขององค์กร มาในปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อโลกและพฤติกรรมมนุษย์ทำให้วิถีชีวิตของพวกเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง จนเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ไมโครซอฟท์จึงได้ยกแนวความคิด Resiliency หรือ ความสามารถในการปรับตัวและยืนหยัดรับมือคลื่นความเปลี่ยนแปลง ให้เป็นกรอบแนวคิดสำคัญ โดยสามารถแบ่งออกเป็นสามช่วงใหญ่ ๆ ได้แก่
• Response : การตอบสนองต่อเหตุการณ์และการเปลี่ยนแปลงอย่างทันท่วงที
• Recovery: แผนรับมือ ฟื้นฟูระบบงานและธุรกิจให้กลับคืนสู่สภาวะปกติ
• Reimagine: ปรับทิศทางของธุรกิจ รูปแบบผลิตภัณฑ์และบริการให้แตกต่าง พร้อมรับความต้องการของโลกที่เปลี่ยนไป

     

    ขณะที่ 5 เทรนด์สำคัญกับก้าวต่อไปของชีวิตในโลกดิจิทัล ได้แก่  1. New Way of Work and Life แนวคิดการทำงานและการใช้ชีวิตแบบใหม่ 2. Virtual Century ยุคที่โลกแห่งความจริงและโลกเสมือนจริงใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น 3.Hyper Automation เมื่อเทคโนโลยีสามารถช่วยสนับสนุนการทำงานแบบอัตโนมัติได้ในทุกขั้นตอน 4. Accelerating Digital เมื่อการปฏิรูปธุรกิจด้วยดิจิทัลต้องเร่งความเร็ว เพื่อรองรับการปรับตัวขององค์กรให้เท่าทันสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง 5. Business Model Revamp การเปลี่ยนโมเดลธุรกิจทั้งระบบ เพื่อตอบโจทย์ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในบริบทใหม่ทางสังคม

    อย่างไรก็ตามทั้ง 5 เทรนด์นี้ ต้องมีรากฐานอยู่บน Trust หรือความไว้วางใจในเทคโนโลยี โดยคำนึงถึงความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวของข้อมูลในทุกขั้นตอน