ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวก ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์

04 ส.ค. 2563 | 02:21 น.

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวก ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ ขานรับดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐที่พุ่งขึ้น

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้(4 ส.ค.) ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ ขานรับดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบกว่า 1 ปี รวมถึงข่าวไมโครซอฟท์เจรจาซื้อกิจการ TikTok และกูเกิลเข้าซื้อหุ้นในบริษัท ADT

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 22,379.74 จุด เพิ่มขึ้น 184.36 จุด, +0.83%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,376.44 จุด เพิ่มขึ้น 8.47 จุด, +0.25%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,664.60 จุด เพิ่มขึ้น 206.47 จุด, +0.84%

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดาวโจนส์ ปิดบวก 236.08 จุด ขานรับดัชนีภาคการผลิตสหรัฐพุ่ง

"ราคาทอง" ใกล้ทะลุ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์

ราคาน้ำมันดิบ ปรับขึ้น หลังกิจกรรมภาคการผลิตในสหรัฐและยุโรปดีขึ้น

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 12,577.88 จุด เพิ่มขึ้น 64.85 จุด, +0.52%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,272.33 จุด เพิ่มขึ้น 21.29 จุด, +0.95%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,495.13 จุด เพิ่มขึ้น 10.22 จุด, +0.41%

ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,578.24 จุด เพิ่มขึ้น 5.63 จุด, +0.36%
          

ตลาดได้รับแรงหนุนหลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 54.2 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว จากระดับ 52.6 ในเดือนมิ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 53.6 โดยได้รับปัจจัยบวกจากการที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลังจากมีการปิดเศรษฐกิจก่อนหน้านี้เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ด้านไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.9 ในเดือนก.ค. จากระดับ 49.8 ในเดือนมิ.ย. โดยดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะขยายตัวของภาคการผลิตของสหรัฐ
          

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเจรจาระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาวเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ซึ่งรวมถึงการขยายโครงการช่วยเหลือคนว่างงานซึ่งได้หมดอายุแล้วในช่วงสิ้นเดือนก.ค. ขณะที่ยังคงมีความเห็นที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับวงเงินที่จะให้ความช่วยเหลือคนว่างงาน โดยพรรคเดโมแครตต้องการให้รักษาวงเงินดังกล่าวไว้ที่ระดับ 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ แต่พรรครีพับลิกันต้องการให้ปรับลดลงมาอยู่ที่ 200 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์