นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึง คดีบอส อยู่วิทยา ว่า จากการเก็บข้อมูลทั้งหมดที่ผ่านมาหลายประเด็นสังคมยังมีความเคลือบแคลงสงสัย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องขอตรวจสอบและขอดูคำวินิจฉัยรายละเอียดการพิจารณาสั่งคดีทั้งหมดจากอัยการสูงสุด เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ เพราะข้อมูลที่เป็นทางการจะเป็นความจริงตั้งต้นว่ามีส่วนไหนที่ไม่ถูกต้องชอบธรรม และมีข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร
ดุลพินิจในการพิจารณาสั่งคดีมีเหตุผลใด มีพยานปากไหนมารองรับหรือไม่ พนักงานสอบสวนตำรวจสอบพยานใครบ้าง มีรายละเอียดอย่างไร สิ่งสำคัญต่างๆ เหล่านี้เป็นข้อมูลสำคัญที่จะนำไปสู่การตรวจสอบเพื่อให้เกิดความโปร่งใสได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ชูวิทย์"จัดหนักอัยการคดี "บอส อยู่วิทยา"
เปิดมุมสว่างตระกูล "อยู่วิทยา"
ศรีสุวรรณจี้ ป.ป.ช.เอาผิดตำรวจ สั่งไม่ฟ้องมีโคเคนจากทำฟัน“บอส อยู่วิทยา”
อีกมุมหนึ่งของ “ตระกูลอยู่วิทยา”
ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องอาศัย พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ ในการขอข้อมูลรายละเอียดในสำนวนจากอัยการสูงสุด โดยนายวิลาส จันทรพิทักษ์ อดีตประธานคณะกรรมาธฺิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (กมธ.ปปช.) จะได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุดในวันอังคารที่ 4 สิงหาคมนี้ เวลา 13.30 น.
นายราเมศกล่าวต่อว่า กระบวนการยุติธรรมมีหลายส่วนหลายองค์กร ทุกองค์กรมีทั้งคนดีและไม่ดี องค์กรตำรวจ องค์กรอัยการก็เช่นกัน คนดีก็มีอยู่มาก อย่าเหมารวมให้คนดีต้องเสียกำลังใจ แต่เมื่อมีคนไม่ดีเราก็ต้องช่วยกันตรวจสอบ เพื่อขจัดคนไม่ดีให้ออกไป และไม่อยากให้คิดกันว่า คุกมีไว้ขังคนจน แต่คุกมีไว้ขังผู้กระทำความผิดเพราะนักการเมือง นักธุรกิจ ข้าราชการ ที่ทำผิดแล้วติดคุกก็อยู่มีเป็นจำนวนมาก จึงต้องช่วยกันเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมมีความเข้มแข็งต่อไป