ศรีสุวรรณ ร้องศาลปกครอง.เพิกถอนคำสั่ง“ปลดพนักงานสกสค.”

30 ก.ค. 2563 | 06:14 น.

ศรีสุวรรณ ร้องศาลปกครอง เพิกถอนคำสั่งปลด961“พนักงานสกสค.”ชี้คำสั่งไม่ชอบด้วยกม. จี้รัฐบาลช่วยให้ไม่ถูกเลิกจ้างเหมือนบินไทย พร้อมขอไต่สวนฉุกเฉินไต่สวนฉุกเฉินสั่งระงับปลด1ส.ค.นี้

ศรีสุวรรณ ร้องศาลปกครอง.เพิกถอนคำสั่ง“ปลดพนักงานสกสค.”

 วันที่ 30 ก.ค. 2563 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย พร้อม"พนักงานสกสค." ข้ายื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองกลาง ขอให้เพิกถอนคำสั่งผู้อำนวยการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และคณะกรรมการ สกสค. ที่มีคำสั่งปลดพนักงานสกสค.จำนวน 961 คน   และขอให้ไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ก่อนมีคำพิพากษา โดยระงับคำสั่งปลดที่จะมีผลในวันที่ 1 ส.ค.ไว้ก่อน

               

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า คำสั่งดังกล่าวน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากผิดระเบียบคณะกรรมการสกสค. ที่กำหนดว่าการบอกเลิกการปฏิบัติงานของพนักงานจะต้องมีเหตุตามกฎหมาย และเหตุสำคัญที่สามารถเลิกจ้างพนักงานทั้งหมดได้คือยกเลิกหน่วยงาน ส่วนการเลิกจ้างอื่นๆให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด อาทิ มีคดีความทางอาญา หรือสร้างความเสียหายให้องค์กร แต่การสั่งปลดเจ้าหน้าที่จำนวนมากในระเบียบของสกสค.ไม่ได้กำหนดไว้ จึงถือว่าการออกคำสั่งดังกล่าวไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมาย 

 

จึงขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของผอ.สกสค. และคณะกรรมการสกสค. และขอความเมตตาศาลให้ไต่สวนฉุกเฉินภายในวันนี้ (30 ก.ค.)หรือวันพรุ่งนี้เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวจะบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค.นี้ จึงเป็นเหตุที่เร่งด่วน เพราะพนักงานต่างมีภาระหนี้สินเป็นจำนวนมาก  เช่น ต้องมีภาระส่งเงินเข้ากองทุนฌาปนกิจและสหกรณ์สกสค. ทำให้ได้รับผลกระทบอย่างเป็นลูกโซ่  รัฐบาลควรต้องเข้ามาดูแลพนักงานทั้งหมด ไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งมีหลายกรณีที่รัฐบาลก็เข้ามาช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่รัฐบาลเข้ามาช่วยการบินไทย โดยรัฐบาลก็จัดการช่วยเหลือไม่ให้เลิกจ้างพนักงาน แต่สกสค.กลับให้ผอ.สกสค.มาใช้อำนาจปลดพนักงาน

 

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า สกสค.เป็นองค์กรที่อยู่ในการกำกับกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งได้ผลิตตำราเรียนมาอย่างยาวนาน และก่อนหน้านี้ก็ทำกำไรนับพันล้านบาท แต่เมื่อส่งนักการเมืองเข้ามาบริหาร ก็ทำให้สกสค.เกิดภาวะขาดทุน เนื่องจากผู้บริหารผ่องถ่ายการพิมพ์ตำราเรียนให้ภายนอกรับไปพิมพ์งาน หรือส่งต้นฉบับให้สบสค.จัดพิมพ์ในระยะเวลากระชั้นชิด แล้วก็อ้างว่าโรงพิมพ์สกสค.ดำเนินการไม่ทันเวลา จึงทำให้เอกชนไปพิมพ์ โดยมีส่วนได้ส่วนเสีย จึงทำให้งานพิมพ์ไม่มีกำไร อีกทั้งงานพิมพ์แต่ละชุดมีค่าตอบแทนหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้การโบ้ยให้พนักงานเป็นรับผิดชอบแทนจึงไม่เป็นธรรม