“IRPC” เล็งออก “หุ้นกู้” 2.8 หมื่นล้าน

29 ก.ค. 2563 | 09:25 น.

“IRPC” เล็งออก “หุ้นกู้” 2.8 หมื่นล้าน ผ่าน 6 สถาบันการเงิน เพื่อบริหารสภาพคล่อง รองรับการเติบโตตามแผนกลยุทธ์ แสวงหาโอกาสการลงทุน และชำระคืนหนี้

นายนพดล  ปิ่นสุภา  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า IRPC ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเพื่อขออนุญาตออกหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน  และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ภายใต้โครงการหุ้นกู้ของ IRPC ปี พ.ศ. 2563 วงเงิน 2.8 หมื่นล้านบาท ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ซึ่งหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A-(tha) จากบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ จำกัด เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2563

                ทั้งนี้  หุ้นกู้ดังกล่าวจะดำเนินการผ่านสถาบันการเงิน 6 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารทหารไทย และบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ในเร็ววันนี้  โดยหุ้นกู้ของ IRPC น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนในสภาวะตลาดที่มีความไม่แน่นอนและผันผวนสูง เนื่องจากสามารถให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ

“IRPC” เล็งออก “หุ้นกู้” 2.8 หมื่นล้าน

                สำหรับวัตถุประสงค์ของการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและเงินลงทุนทั่วไป รวมถึงการชำระคืนเงินกู้ ซึ่งจะเสริมสภาพคล่องให้บริษัทฯ ในการบริหารจัดการตามแผนกลยุทธ์ เร่งเพิ่มขีดสมรรถภาพ  และความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ รวมทั้งรองรับโอกาสการลงทุนที่ตอบโจทย์วิถีการดำรงชีวิตรูปแบบใหม่ (New Normal) เช่น โครงการปรับปรุงการกลั่นตามมาตรฐานน้ำมันยุโรป (ยูโร 5) โครงการขนส่งน้ำมันผ่านระบบท่อ เพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่ายน้ำมันทั่วประเทศ

โครงการการขุดลอกร่องน้ำท่าเทียบเรือ เพื่อรองรับเรือขนส่งน้ำมันขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งน้ำมันดิบ การเพิ่มสัดส่วนการผลิตผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม รวมถึงการนำระบบดิจิทัลมาใช้ทั่วทั้งองค์กรผ่านโครงการ IRPC 4.0 ด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวคาดว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้มากกว่า 4.6 พันล้านบาท

                นายนพดล กล่าวต่อไปอีกว่า IRPC ยังคงมีความสามารถในการลงทุน 2.8 หมื่นล้านบาท ตามแผนลงทุน 5 ปี (พ.ศ. 2563 - 2567) คู่ขนานไปกับการบริหารต้นทุนและประสิทธิภาพการผลิตอย่างเคร่งครัด มีการจัดลำดับความสำคัญของโครงการลงทุน เพื่อให้มั่นใจว่า IRPC จะมีสภาพคล่องเพียงพอในการดำเนินธุรกิจท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบัน และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า ทั้งในสถานการณ์ปัจจุบันและในอนาคต          

                “IRPC ถือหุ้นใหญ่โดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. โดย IRPC ดำเนินธุรกิจปิโตรเลียมและปิโตรเคมีครบวงจร ที่ตอบโจทย์ลูกค้าในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ การแพทย์และสาธารณสุข ทั้งนี้ IRPC ยังประกอบธุรกิจสาธารณูปโภค ได้แก่ ท่าเรือ คลังน้ำมัน และโรงไฟฟ้า ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาของอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจในประเทศ”