เกษตรกร ยอมรับปัญหาแล้ง วอนรัฐเร่งมาตรการช่วยเหลือ

25 ก.ค. 2563 | 05:36 น.

เกษตรกร รับฟังกรมชลฯ พร้อมยอมรับปัญหาน้ำแล้ง หากแต่ขอความช่วยเหลือรัฐ หามาตรการเยี่ยวยาปัญหาหนี้สิน พร้อมช่วยประสาน ผู้ว่าฯ อ่างทอง ขอความช่วยเหลือเจ้าของบ่อทราย กระจายในพื้นที่จังหวัด เพื่อให้เกษตรกรใช้ทำนา

ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ได้เชิญตัวแทนเกษตรกร ประธานสภาเกษตรกรอ่างทอง ชัยนาท สิงห์บุรี กว่า 40 คน ติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลที่จังหวัดตาก และเขื่อนเจ้าพระยา-ชัยนาท เพื่อให้เกษตรกรเข้าใจสถานการณ์ว่า การบริหารน้ำและหลักในการจัดสรรน้ำว่าต้องทำอย่างไร ซึ่งกรมชลฯ โปร่งใสพร้อมชี้แจงทุกประเด็น 

“รับทราบจากพื้นที่ว่า เมื่อเกษตรกรและตัวแทนจากสภาเกษตร รับฟังและเห็นสถานการณ์จริง ต่างก็พอใจ และเข้าใจในการบริหารของกรม  และได้รับที่จะนำข้อเท็จจริงที่ได้เห็นด้วยตาตนเอง ไปชี้แจงกับเพื่อนสมาชิกสภาเกษตรและประชาชนในแต่ละพื้นที่เพื่อความเข้าใจตรงกันด้วย ซึ่งทางกรมยินดีชี้แจงทุกประเด็นเพื่อความเข้าใจของทุกฝ่าย“ ดร.ทองเปลวกล่าว

เกษตรกร ยอมรับปัญหาแล้ง วอนรัฐเร่งมาตรการช่วยเหลือ

นายทรงพล พูลสวัสดิ์ ประธานสภาเกษตรจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า  หลังดูสถานการณ์น้ำในพื้นที่เขื่อนภูมิพล ก็เข้าใจและยอมรับว่ามีปัญหาแห้งแล้ง ขณะนี้ถ้าฝนไม่ตกเลย 1 เดือน ภาคการเกษตรจะน้ำเหลือ 0% ทันที หลังจากนี้ ก็จะหารือเกษตรกรด้วยกันว่า ต้องมีการปรับรูปแบบการทำการเกษตร และพร้อมที่จะช่วยประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องเกษตรกรด้วยกันเข้าใจ 

เกษตรกร ยอมรับปัญหาแล้ง วอนรัฐเร่งมาตรการช่วยเหลือ

อย่างไรก็ตาม ที่ร้องเรียน คือ ประเด็นการช่วยเหลือเกษตรกรของภาครัฐ เนื่องจากปีที่ผ่านมาแล้งมากไม่ได้ทำนา มาปี 2563 ก็ยังไม่สามารถทำได้ จึงเรียกร้องให้รัฐบาลหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกร เพราะไม่มีเงินใช้หนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ขณะเดียวกัน เรียกร้องให้กระทรวงมหาดไทยประสานผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ในการขอความช่วยเหลือจากเจ้าของบ่อทราย มีน้ำจำนวนมาก มากระจายในพื้นที่ของจังหวัด เพื่อให้เกษตรกรใช้ทำนา
 

ด้าน ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า หลังจากที่พื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ ส่งผลให้เกษตรกรหลายพื้นที่ในจังหวัดอ่างทอง โดยเฉพาะตำบลบ้านพราน ตำบลหนองแม่ไก่  อำเภอแสวงหา ได้รับผลกระทบตามไปด้วยนั้น กรมชลประทาน ได้เร่งดำเนินการช่วยเหลือพื้นที่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และพื้นที่ที่เพาะปลูกข้าวไปแล้วไม่ให้เกิดความเสียหาย ด้วยการผันน้ำจากแม่น้ำน้อยในอัตรา 25 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ผ่านประตูระบายน้ำบรมธาตุ ส่งเข้าคลอง 1 ขวา มาตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา 

ปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลเข้าคลอง 5 ซ้าย 1 ขวา ที่เป็นพื้นที่เป้าหมายในการช่วยเหลือแล้วกว่า 70% ประกอบกับมีฝนตก ในพื้นที่ทำให้เกษตรกรสามารถใช้น้ำจากน้ำฝนและน้ำจากคลองระบายน้ำบางส่วนเพื่อเพาะปลูกได้ ส่งผลให้เกษตรกรในพื้นที่มีความพึงพอใจกับมาตรการการช่วยเหลือดังกล่าวเป็นอย่างมาก

ขณะนี้หลายพื้นที่ฝนเริ่มตก แต่เนื่องปริมาณน้ำต้นทุนจำกัด กรมชลประทานจึงจัดสรรเพื่อช่วยเหลือเน้นที่น้ำอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศเป็นหลัก  ขอความร่วมมือเกษตรกรปลูกข้าวเมื่อมีปริมาณฝนตกอย่างสม่ำเสมอและมีปริมาณน้ำเพียงพอ