ดาวโจนส์ ปิดลบ 182.44 จุด กังวลความสัมพันธ์สหรัฐ-จีนตึงเครียด

24 ก.ค. 2563 | 23:47 น.

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,469.89 จุด ลดลง 182.44 จุด หรือ -0.68%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,215.63 จุด ลดลง 20.03 จุด หรือ -0.62% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,363.18 จุด ลดลง 98.44 จุด หรือ -0.94%

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นออกมาจากความกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดมากขึ้นระหว่างสหรัฐ-จีน, จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการที่บริษัทจดทะเบียนของสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการออกมาแย่กว่าคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,469.89 จุด ลดลง 182.44 จุด หรือ -0.68%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,215.63 จุด ลดลง 20.03 จุด หรือ -0.62% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,363.18 จุด ลดลง 98.44 จุด หรือ -0.94%

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 0.8%, ดัชนี S&P500 ลบ 0.3% และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 1.3%

 ตลาดถูกกดดันจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากจีนสั่งให้สหรัฐปิดสถานกงสุลในเมืองเฉิงตู เพื่อตอบโต้ที่สหรัฐสั่งปิดสถานกงสุลจีนในเมืองฮิวสตัน        

นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐที่พุ่งขึ้นทะลุ 4 ล้านรายแล้ว และมีชาวอเมริกันเสียชีวิตจากโควิด-19 มากกว่า 1,000 คนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาติดต่อกันเป็นวันที่ 3 แล้ว

 Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 4,244,605 ราย และมีผู้เสียชีวิต 148,387 ราย

 ทั้งนี้ หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดตลาดในแดนลบ ยกเว้นหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงหนักที่สุด

ในสัปดาห์หน้า นักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทชั้นนำ, การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 28-29 ก.ค. และการเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2563 ของสหรัฐซึ่งคาดว่าจะย่ำแย่ที่สุดเป็นประวัติการณ์

บริษัทแอปเปิล, อัลฟาเบท และแอมะซอน.คอม จะเปิดเผยผลประกอบการในวันที่ 30 ก.ค. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผย GDP ไตรมาส 2 ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะทรุดลง 35%          

ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 13.8% สู่ระดับ 776,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 4% สู่ระดับ 700,000 ยูนิค

ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 50.0 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน จากระดับ 47.9 ในเดือนมิ.ย.