ทองคำ กับ 3 เหตุผล เขย่าโลก

24 ก.ค. 2563 | 21:00 น.

ทองคำ กับ 3 เหตุผล เขย่าโลก!!! : คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3595 หน้า 13 ระหว่างวันที่ 26 ก.ค.-29 ก.ค.2563 By…เจ๊เมาธ์

ทองคำ

กับ 3 เหตุผล

เขย่าโลก!!!
 

     >>> นับตั้งแต่ต้นปี 2563 มานี่ ราคาทองคำในตลาดโลกปรับขึ้นมาแล้วมากกว่า 20% โดยล่าสุดราคาซื้อขายสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ขยับราคาขึ้นไปสูงถึง 1,890 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่สูงที่สุดในรอบ 9 ปี นับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2554 ที่ราคาขึ้นไปถึง 1,912 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ราคาทองคำพุงสูงขึ้นก็สามารถแบ่งออกได้เป็น เรื่องของเศรษฐกิจ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ เรื่องการเมืองระหว่างประเทศ
 

     >>> ในเรื่องเศรษฐกิจ... สาเหตุหลักๆ ก็มาจากความพยายามฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ด้วยสาเหตุมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนทำให้หลายประเทศเร่งทำการฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจของตัวเอง โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือที่ 0-0.25% พร้อมออกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาคิดเป็นเงินมากกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ (100 ล้านล้านบาท) ซึ่งเงินล้นระบบจำนวนหนึ่งได้ไหลเข้าไปสู่ตลาดค้าทองคำ จนทำให้ราคาทองคำขยับสูงขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ราคาทองคำ พุ่ง 24.9 ดอลลาร์ สูงสุดรอบ 9 ปี
เก็งกำไร PTTGC / ทองพุ่งไม่หยุดหรือจะไปหยุดที่ 30,000 บาท?
ราคาทองคำ ร้อนแรงพุ่งนิวไฮรอบ 9 ปี

     >>> การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน โดย โดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน มีคะแนนความนิยมตามหลัง โจ ไบเดน ผู้ท้าชิงอยู่พอสมควร ซึ่งก็มีนักวิเคราะห์การเมืองให้ความเห็นว่าการที่ประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ จะสามารถเอาชนะได้มีเพียงแค่ 2 ทาง หนึ่งนั้นคือ การทำให้ผู้ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนน้อยมากที่สุด เพราะถึงยังไงกลุ่มผู้ที่จะมาลงคะแนนแน่นอนก็ยังเป็นกลุ่มอนุรักษ์นิยม ซึ่งเป็นฐานเสียงของ โดนัล ทรัมป์ นั่นเอง
 

     @@@ และอีกหนึ่งวิธี นั้นก็คือการทำสงคราม ซึ่งมีอดีตประธานธิบดีหลายคนเคยทำสำเร็จด้วยการชนะเลือกตั้งสมัยที่ 2 จากการก่อสงคราม ล่าสุดก็คือจอร์จ บุช จูเนียร์ ซึ่งทำสงคราถล่มอิรักมาแล้ว และประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ ก็อาจจะนับให้นี่คือหนึ่งในตัวเลือกเพื่อให้ตัวเองชนะการเลือกตั้งก็เป็นได้
 

     >>> ในเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ ก็ยังคงเป็นเรื่องของความขัดแย้งกันระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ที่เริ่มต้นมาจากสงครามการค้า การกีดกันทางการค้า ลามมาถึงการแย้งชิงความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี เช่นกรณีระบบ 5G ของ Huawei การแข่งขันและขอพิพาททางการทหารในทะเลจีนใต้ จนเข้าใกล้นิยามของคำว่า “สงครามเย็น” เข้ามาทุกที ซึ่งชัดเจนว่าเป็นเรื่องการช่วงชิงความเป็นพี่ใหญ่และช่วงชิงความเป็นผู้ชี้นำโลกนั่นเอง ซึ่งความขัดแย้งนี้ก็ทำให้ “ทองคำ” ซึ่งเป็นสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำและมีความปลอดภัยสูงกลายเป็นที่ต้องการมากขึ้น
 

     @@@ อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำก็มีโอกาสที่จะปรับราคาลงมาได้ภายหลังจากการค้นพบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และภายหลังจากการสิ้นสุดการเลือกตั้งประธานาธิบดีของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งอาจจะเกี่ยวโยงไปถึงเรื่องความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-จีน ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ แต่ทั้งนี้ก็จะต้องมีระยะเวลาอีก 3 เดือนเป็นอย่างน้อย และจนถึงวันนั้นก็ไม่รู้ว่าราคาทองคำจะวิ่งไปได้อีกไกลแค่ไหน 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ 30,000 บาท/1 บาททองคำ ก็อาจจะมาถึงก็ได้ใครจะไปรู้

     >>> ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank) หรือ ADB ทำตัวเป็นเสือปืนไว....เทขายบิ๊กล๊อตจำนวน 176 ล้านหุ้น ฟาดกำไรเน๊าะๆ ไป 4.5 พันล้านบาท ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 35.15 บาท รวมมูลค่า 6,186.40 ล้านบาท งานนี้ทำเอา GULF ของเสี่ยกลาง “สารัชถ์ รัตนาวะดี” ถึงกับวุ่นจนราคาหลุดลงไปถึง 33.25 บาท กันเลยนะเจ้าค่ะ ไม่รู้ว่า ADB มีกำไรแล้วก็เลยคิดว่าพอ....หรือว่าไม่อยากไปต่อกับ GULF ก็ไม่รู้นะคะ เอ...ว่าแต่ว่าราคาที่ลดลงมาขนาดนี้จะกระทบถึงแผนการเพิ่มทุน 10:1 หุ้น ราคาหุ้นละ 30 บาทหรือเปล่าน๊า เจ๊เมาธ์ ชักอยากจะรู้แล้วค่า
 

     >>> หุ้นกลุ่มธนาคารยังไม่น่าไว้วางใจ ไม่ว่าจะเป็นธนาคารใหญ่อย่าง BBL KBANK SCB และ KTB หรือแม้แต่ธนาคารเล็กอย่าง BAY KKP TISCO LHFG ซึ่งจะเหลือรอดบ้างก็แค่ TMB และ CIMBT  2 รายเท่านั้นเองค่ะ เจ๊เมาธ์ได้ข่าวว่า NPLs ของกลุ่ม SME ก็เริ่มออกอาการไม่ดี จนอาจจะทำให้ครึ่งปีหลังของหุ้นกลุ่มธนาคาร ยังเป็นอีกครึ่งปีที่ยังแย่ไม่ต่างจากครึ่งปีแรกนะคะ ที่เจ๊เล่าให้ฟังนี่ก็เพื่อจะให้เตรียมใจ ...บอกได้แค่ว่าปีนี้หุ้นกลุ่มธนาคารไม่ใช่สวรรค์ต่อไปอีกแล้วค่ะ
 

     @@@ หุ้นลีสซิ่งอย่าง MTC SAWAD AEONTS และ KTC ออกอาการผวา หลังจากที่ธนาคารออมสินเตรียมรุกตลาดสินเชื่อส่วนบุคคล โดยการใช้กลยุทธ์ลดดอกเบี้ยถล่มคู่แข่งลง 8-10% จากปัจจุบัน กดให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดให้ต่ำลง หวังดูดลูกค้าให้มารีไฟแนนซ์กับธนาคารออมสิน ว่างั้น แหม...ปากก็บอกว่าเพิ่มทางเลือกให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำลง หวังลดภาระประชาชนในยามเศรษฐกิจชะลอตัวนะคะ เอาจริง ๆ พอถึงเวลาที่ประชาชนเดินเข้าไปหาที่เค้าเตอร์ เจ๊เมาธ์ ก็หวังว่าจะไม่มีประเด็นเรื่องต้องมีเงินเดือน หรือว่าจะต้องเป็นพนักงานบริษัทมาเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา เจ๊จะบอกว่ากลุ่มนอนแบงก์มีลูกค้าหลัก คือการใช้สินทรัพย์มาค้ำประกันเงินกู้นะคะ ถ้ายังก้าวข้ามเรื่องเงินเดือนและสเตทเมนท์ไม่ได้...ก็อย่าพึ่งฝันหวานว่าจะมาแบ่งตลาดเขาเลยค่า มันไม่ง่ายค่ะ
 

     >>> หุ้นถุงมือยางแม่ลูก STA และ STGT หลังจากที่โดนเทขายก็ทำให้หมดแรงซ่าไปพักใหญ่นะคะ แต่ถ้าจะให้เจ๊เมาธ์จับอาการ เจ๊ก็คงจะบอกได้ว่าตอนนี้อยู่ในกระบวนการเลียแผลและการสะสมพลัง แต่ปัญหาของหุ้นแม่ลูกคู่นี้ คือพอเกิดความไม่ต่อเนื่องในการไล่ราคา มันก็ทำให้เกิดฐานราคารอบใหม่ไปแล้วค่ะ ในส่วนของ STA ฐานราคาใหม่อยู่ที่ 25 บาท ส่วนหุ้นลูก STGT หยุดที่  78 บาท และถ้าจะผ่านราคาเหล่านี้ไปได้เจ๊เมาธ์บอกเลยว่าไม่ง่าย ...อาจจะต้องรอไปจนกว่าจะถึงช่วงแจ้งผลการดำเนินงานโน้นเลยนะคะ เอาเป็นว่าเจ๊เมาธ์เป็นกำลังใจให้ก็แล้วกันค่ะ...