สิงห์ เอสเตท หนุน SHR เพิ่มโรงแรมเป็น 2 เท่าใน 5 ปี

01 ส.ค. 2563 | 03:10 น.

สิงห์ เอสเตท ดันโรงแรมและรีสอร์ทในเครือ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR) ทยอยเปิดให้บริการ เผยเปิดครบ 39 แห่งใน 5 ประเทศชี้ระยะสั้นปีนี้รายได้ฮวบ 40% แต่ยังคงเดินหน้าตามแผน 5 ปี เพิ่มโรงแรมในพอร์ตโฟลิโอเพิ่มเป็น 2 เท่า ภายใน 5 ปี 

โควิด-19 ทำให้เกิดข้อจำกัดด้านการเดินทางทั่วโลก ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมของ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) เครือ SHR บริษัทในเครือของ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ต้องปิดการให้บริการโรงแรมและรีสอร์ทชั่วคราว ทั้ง 39 แห่ง ใน 5 ประเทศ ในไทย อังกฤษ มัลดีฟส์ ฟิจิ และมอริเชียส ตั้งแต่เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะทยอยกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในเดือนก.ค.นี้ หลังจากการแพร่ระบาดเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น หลายประเทศกลับมาใช้ชีวิตตามปกติมากขึ้น

จากรายได้ของธุรกิจโรงแรมที่คาดว่าจะหายไปกว่า 40% ส่งผลกระทบต่อสิงห์ เอสเตท เป็นอย่างมาก เนื่องจากรายได้ของสิงห์ เอสเตท กว่า 35% มาจากธุรกิจโรงแรม ล่าสุดสิงห์ เอสเตท ได้ปรับลดหมายรายได้ในปีนี้จาก 2 หมื่นล้านบาท เหลือ 9 พันล้านบาท โดยปรับลดเป้าหมายรายได้จากธุรกิจโรงแรมเหลือ 4,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 6,500-7,000 ล้านบาท และปรับลดเป้าหมายรายได้จากธุรกิจที่อยู่อาศัยเพื่อขายและสำนักงาน เหลือ 5 พันล้านบาท

การปรับลดเป้าหมายรายได้ที่เกิดขึ้น เป็นผลกระทบระยะสั้น แต่ในระยะยาว สิงห์เอสเตท ก็ยังคงขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจโรงแรมผ่าน SHR เพื่อเดินหน้าตามเป้าหมายเดิม ที่จะยังคงเดินหน้าลงทุนธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าภายใน 5 ปี จาก 39 แห่งเป็น 80 แห่ง

นาย เดิร์ก อังเดร ลีน่า คุยเบอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท กล่าวว่า โควิด-19 ทำให้เกิดการหยุดชะงักในอุตสาหกรรมการบริการระดับโลกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และ SHR ก็ไม่รอดพ้นจากผลกระทบนี้ อย่างไรก็ตาม เรามั่นใจว่า โครงสร้างของบริษัท จุดแข็งที่สำคัญของเรา รวมถึงตำแหน่งสินค้าในระดับบน (Upper Upscale) และการเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง จะช่วยให้เรากลับเข้าสู่ธุรกิจได้ง่ายขึ้น ด้วยโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่งของเราและอัตราหนี้สินที่ตํ่า นอกจากนั้น เรายังกำลังตั้งเป้าที่จะสร้างอนาคตที่แข็งแรงและยั่งยืนให้กับ SHR อีกด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
สิงห์ชนช้าง เขย่าพอร์ตโรงแรม กินยาวรับทัวริสต์โต
สิงห์ฯดันSHR ขาย IPO 5.2บาท/หุ้น หวัง7.4พันล.ขยายรร.

 

“ในระยะสั้น SHR จะริเริ่มแผนการใหม่ๆ ในเชิงพาณิชย์ โดยจะมุ่งเป้าไปที่ตลาดภายในประเทศและในภูมิภาค เพื่อให้เข้ากับภาพรวมตลาดกลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนแปลงไป ในขณะที่ยังคงดำเนินการตามเป้าหมายการขยายตัวอย่างมุ่งมั่น โดยมีเป้าหมายที่จะ เพิ่มพอร์ตโฟลิโอเป็น 2 เท่า ภายใน 5 ปี ผ่านการลงทุนระหว่างประเทศ การซื้อกิจการ และการรับบริหารโรงแรม ซึ่งรวมถึงการเติบโตของ “ทราย” (SAii) แบรนด์รีสอร์ทแนวคิดใหม่ที่จับกลุ่มตลาดบน ซึ่งเปิดตัวเมื่อปลายปี 2562 เพื่อดึงดูดนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์ที่แตกต่างและอิสระ” นาย เดิร์ก กล่าว

สิงห์ เอสเตท หนุน SHR เพิ่มโรงแรมเป็น 2 เท่าใน 5 ปี

ทั้งนี้การกลับมาเปิดให้บริการโรงแรมในเครือ SHR ได้วางแผนใหม่ให้สอดคล้องกับ “วิถีชีวิตใหม่” (New Normal) ด้านสุขภาพและสุขอนามัยที่เข้มงวดมากขึ้น การฟื้นตัวของ SHR ได้เริ่มขึ้นแล้ว โดยมีโรงแรมและรีสอร์ทหลายแห่งได้เปิดให้บริการอีกครั้งในเดือนก.ค.นี้ โดยทุกแห่งในประเทศไทยจะเข้าร่วมแคมเปญ “เราเที่ยวด้วยกัน” ของรัฐบาล ซึ่งมอบส่วนลด 40% มูลค่าสูงถึง 3,000 บาท ต่อห้อง ต่อคืน จำนวนสูงสุด 5 คืน

อีกทั้งในแต่ละโรงแรมยังได้เปิดตัวโปรโมชันสุดพิเศษเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว อาทิ โปรโมชัน “ซื้อ 1 แถม 1 ฟรี” สำหรับชาวไทยและชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทย ที่ พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท ซึ่งเปิดให้บริการเมื่อในวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา และสันติบุรี เกาะสมุย ที่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่วนรีสอร์ทแบรนด์ “เอาท์ริกเกอร์” 2 แห่งของ SHR ในไทย ก็จัดโปรโมชันพิเศษเช่นกัน เอาท์ริกเกอร์ ลากูน่า ภูเก็ต บีช รีสอร์ท ราคาเริ่มต้น 1,799 บาทต่อคืน เอาท์ริกเกอร์ เกาะสมุย บีช รีสอร์ท เริ่มต้น 1,999 บาทต่อคืน

สำหรับโรงแรมในต่างประเทศ ก็ทยอยเปิดให้บริการแล้วในฟิจิ มัลดีฟส์ เมอริเชียส ที่ได้ทยอยเปิดตั้งแต่เดือนก.ค. บางโรงแรมก็จะเปิดเดือนก.ย. และต.ค.นี้ ขณะที่โรงแรม 9 แห่งในสหราชอาณาจักรภายในเครือเมอร์เคียว และฮอลิเดย์อินน์ จากจำนวน 29 แห่งของ SHR ได้เปิดให้บริการแล้ว และจะเปิดให้บริการอีก 11 แห่งภายในเดือนก.ค.นี้ ส่วนโรงแรมที่เหลืออีก 9 แห่งคาดว่าจะเปิดให้บริการอีกครั้งในเดือนส.ค.นี้ 

 

หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,596 วันที่ 30 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม พ.ศ. 2563