เดือด “วิชัย” ฟาดกลับ“พิมพ์ระพี” เอื้อโรงสกัดโกงเปอร์เซนต์ปาล์ม
โซลเซียล เดือด “วิชัย” ปะทะ “พิมพ์ระพี” เปิดเกมปมโกงเปอร์เซ็นต์ปาล์ม ซัดกรมการค้าภายในเต็มเหนี่ยว อธิบดีฉะสวนกลับแรง “หาเรื่อง” แจงยิบกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจบังคับให้ผู้ซื้อต้องซื้อสินค้าในราคาเท่าไร
เป็นที่ฮือฮา เมื่อ “พิมพ์รพี” แฉ โรงงานน้ำมันปาล์ม โกงเปอร์เซ็นต์น้ำมันเกษตรกร บี้ อธิบดีกรมการค้าภายใน เอาผิดตามกฎหมาย ขู่ ไม่ทำเจออาญา 157 จวกรัฐอนุมัติงบติดตั้งมิเตอร์ปาล์มแบบครึ่ง ๆ กลาง เหมือนเอาพวงมาลัยเบ๊นซ์ไปใส่รถตุ๊ก ๆ ห่วง ไร้ประสิทธิภาพตรวจสอบแบบเรียลไทม์ไม่ได้ กระตุ้นทุกหน่วยงานเร่งดันราคาปาล์มสูงเกินราคาประกันรายได้ โพสต์ผ่าน เฟสบุคส์ส่วนตัว ดร. พิมพ์รพี พันธ์ุวิชาติกุล - pimrapee phanwichatikul ph.d
น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 เปิดเผยว่า ในการประชุมกรรมาธิการฯ ช่วงที่มีการพิจารณางบประมาณในส่วนของกรมการค้าภายใน ซึ่งนายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นผู้เข้าชี้แจง โดยตนได้ฝากให้มีการดำเนินการอย่างจริงจังทางกฎหมายกับโรงงานปาล์มน้ำมันที่โกงเงินเกษตรกร ดังจะเห็นได้จากแบบรายงานเปอร์เซ็นต์น้ำมันที่โรงสกัด ประจำเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาจะพบว่าโรงงานหลายแห่งรายงานเปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ 18-20 แต่เกษตรกรได้เงินเปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ 17 มีส่วนต่างที่หายไป 1-3 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับถูกโกงเงินไป 20-60 สตางค์ เช่น ราคาตามเปอร์เซ็นต์ที่ 18 ต้องจ่าย 3.50 บาท แต่จ่ายจริงอยู่ที่ 3.33 บาท หรือประมาณ 17 เปอร์เซ็นต์
“เดือนนี้กระบี่ได้น้ำมันหีบเฉลี่ยเกิน 18 % ก็ควรได้เงินเพิ่มด้วย แต่กลับถูกกดราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 17 % จึงเป็นหน้าที่ของกรมการค้าภายในที่ต้องบังคับใช้กฎหมายตามอำนาจหน้าที่ อย่าปล่อยให้เกษตรกรถูกโกงทุกวัน โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบไม่เข้าไปแก้ไข เพราะเท่ากับพวกท่านละเว้นการปฏิบัติหน้าที่มีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 157” น.ส.พิมพ์รพี กล่าว
น.ส.พิมพ์รพี ยังฝากถึงรัฐบาลที่เพิ่งมีมติครม.อนุมัติงบประมาณ 372 ล้านบาท เพื่อติดตั้งมิเตอร์วัดปาล์มน้ำมันว่า เจตนาดีแต่การปฏิบัติอาจล้มเหลว เพราะงบประมาณดังกล่าวตัดทอนจากข้อเสนอเดิมของคณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งชาติที่กำหนดวงเงินไว้ที่ 483 ล้านบาท ทำให้ตอนนี้เหมือนกับได้พวงมาลัยรถเบ๊นซ์ไปติดกับรถตุ๊ก ๆ ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จึงอยากให้มีการเพิ่มวงเงินเพื่อให้ได้เสป็กที่ดีมีศักยภาพตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์จึงจะแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อนได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ยังฝากถึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการผลักดันให้ราคาปาล์มน้ำมันขยับสูงขึ้นว่า ต้องเร่งดำเนินการอย่างเป็นระบบ เพื่อให้รัฐไม่ต้องจ่ายเงินประกันรายได้ จึงจะถือว่ามีความสำเร็จในการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง
ฝ่ายนายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน ใช้ชื่อผ่านเฟสบุคส์ Wichaya Phochตอบโต้ เขียนโพสต์กลับ ว่า หาเรื่อง ไม่มีกฎหมายฉบับไหนที่ให้อธิบดีกรมการค้าภายใน บังคับให้ผู้ซื้อต้องซื้อสินค้าในราคาเท่าไร และคงไม่มีนักกฎหมายท่านใดจะยอมให้ทำ เพราะถ้าให้อำนาจกำหนดราคารับซื้อได้ก็ต้องกำหนดสูงๆ ถ้าผู้ซื้อแล้วขายไม่ได้หรือขาดทุน ไม่สามารถแข่งกับสินค้าอื่น เช่น ปาล์ม ต้องแข่งกับถั่วเหลือง น้ำมันมะพร้าว น้ำมันรำข้าว น้ำมันหมู และอีกหลายชนิด
ถ้าน้ำมันปาล์มแพงกว่าไม่มีคนซื้อก็ต้องหยุดธุรกิจ กลไกปกติหยุดทำงาน ปัญหาก็จะแรงมากขึ้น ปัญหาเรื่องปาล์มไม่แตกต่างกับเรื่องข้าว มันสำปะหลัง หรือข้าวโพด และไม่สามารถกำหนดราคาให้ผู้ซื้อต้องรับซื้อตามที่รัฐกำหนดได้ ต้องอาศัยโรงสี โรงแป้งมัน หรืออาหารสัตว์ ทุกขึ้นตอนตลาดต้องอยู่ด้วยกันได้ ที่สำคัญใหญ่เกินไปที่ระดับอธิบดีจะต้องจัดการ และคงไม่เข้ามาตรา 157 ถ้าผิดรัฐบาลทุกชุดที่ผ่านมาคงโดนทุกรัฐบาลครับ เอาเวลาไปหาทางแก้ปัญหาให้ชาวสวนปาล์มด้วยวิธีที่เป็นไปได้ดีกว่า
