วันนี้(22ก.ค.) จะมีการเสนอให้พิจารณาต่ออายุประกาศ พรก.ฉุกเฉิน เป็นเวลาอีก 1 เดือนตั้งแต่ 1-31 สิงหาคม และมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 6 หรือ คลายล็อก เฟส 6 ในการประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมในเวลา 09.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล
ซึ่งมาตรการคลายล็อก พิจารณามีการเสนอให้อนุญาต 4 กลุ่มชาวต่างเข้าประเทศ คือ
1.ต่างชาติจัดการแสดงสินค้าในราชอาณาจักร โดยเป็นกลุ่มคนที่ไม่ได้มาก เข้ามาในวัน เวลาที่กำหนด
2.อนุญาตต่างชาติถ่ายทำภาพยนตร์ โดยมีตารางกำหนดแผน วันและเวลา สามารถควบคุมได้
3.แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติที่จะเข้ามา เป็นแรงงาน เนื่องจากนี้เราขาดแรงงานในภาคอุตสาหกรรมอาหาร และการก่อสร้าง ซึ่งจะต้องใช้คนจำนวนมาก จึงต้องเปิดให้บุคคลเหล่านี้เข้ามาให้เศรษฐกิจขับเคลื่อน
4.กลุ่มที่เข้ามารักษาพยาบาล เช่น เสริมความงาม และปรึกษาเรื่องการมีบุตรฯ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อัพเดท "พรก.ฉุกเฉิน" "เคอร์ฟิว" "คำสั่ง ศบค." ล่าสุดที่นี่
ประกาศ7ฉบับ ต่อพรก.ฉุกเฉินถึง 31ก.ค. 63 - คลายล็อกเฟส 5 เปิดกิจการสี่ยงสูง
ปมร้อน “พรก.ฉุกเฉิน” กลัวเชื้อโรค หรือ กลัวกฎหมาย
ต่อ “พรก.ฉุกเฉิน” อำนาจเบ็ดเสร็จยังอยู่ที่ “บิ๊กตู่” 100%
โดยมาตรการคลายล็อกดังกล่าว ชาวต่างชาติทั้ง 4 กลุ่มจะต้องอยู่ในสถานที่กักตัวของรัฐ 14 วันหรือกักตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลา 14 วัน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วันที่ 22 ก.ค.จะมีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ จะมีพิจารณาเรื่องการต่ออายุ พรก.ฉุกเฉิน ที่จะครบการต่ออายุในวันที่ 31 ก.ค. ว่ามีความจำเป็นอย่างไร สิ่งสำคัญคือ พรก.ฉบับนี้มีไว้ใช้เพื่ออะไร ซึ่งเคยพูดไว้หลายครั้งนี้ เพราะหลายกฎหมายไม่ครอบคลุม ทั้งนี้ ไม่ได้เอากฎหมายฉบับนี้ไปยุ่งเกี่ยวกับการชุมนุม เพราะมีพระราชบัญญัติการชุมนุมในที่สาธารณะอยู่แล้ว
ส่วนการพิจารณาผ่อนคลายกิจการและกิจกรรมในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในระยะที่ 6 นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ใช่ว่ารัฐบาลประกาศไปแล้วมีมาตรการไปแล้ว ไม่มีใครมาช่วยรัฐบาลในการดูแลพื้นที่ในทุกขั้นตอน จะต้องมีคนรับผิดชอบช่วยกันดูแลให้รอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในภายหลัง เพราะเราต้องสร้างความสมดุลให้ได้ระหว่างสุขภาพและเศรษฐกิจระดับฐานราก ซึ่งมีความเดือดร้อนมากมาย และมีทั้งคนเห็นชอบและไม่เห็นชอบ แต่ทุกคนต้องคำนึงภาพโดยรวม ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องทำทั้ง 2 ด้าน