ดีเดย์ ม.ค.69 ลุยเปิดเดินรถ “ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน”

21 ก.ค. 2563 | 08:30 น.

“คมนาคม” เดินหน้าตั้งคณะกรรมการกำหนดราคาค่าทดแทน เร่งเจรจาผู้บุกรุกพื้นที่โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินต่อเนื่อง จ่อเสนอ กพอ.ไฟเขียว ส.ค.63 มั่นใจส่งมอบพื้นที่เอกชนช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ภายใน ก.พ.2564 ได้ตามแผน

นายชัยวัฒน์    ทองคำคูณ  ปลัดกระทรวงคมนาคม  เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะทำงานส่งมอบพื้นที่รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ว่า ที่ประชุมมีมติรับทราบความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) สำหรับการเวนคืนที่ดินโยกย้ายผู้บุกรุกและยกเลิกสัญญาการเช่าของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นั้น เบื้องต้นได้จัดตั้งคณะกรรมการกำหนดราคาค่าทดแทน ซึ่งจะดำเนินการในการเจรจากับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนที่ดินของโครงการดังกล่าว  ทั้งนี้การโยกย้ายผู้บุกรุกที่ได้รับผลกระทบต่อโครงการนั้น ประกอบด้วย ช่วงดอนเมือง-สุวรรณภูมิ  จำนวน  267 หลัง ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา จำนวน 302 หลัง  ขณะนี้รฟท.ได้ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้บุกรุก ต้องดำเนินการตามกฎหมาย  ส่วนกรณีที่เจ้าของที่ดินที่มีการทักท้วงจะดำเนินการเจรจาให้เสร็จภายในเดือน ส.ค.2564  ขณะที่การยกเลิกสัญญาเช่า ทั้งหมด 213 สัญญา แบ่งเป็นช่วงดอนเมือง-พญาไท  จำนวน 100 สัญญา คาดว่าดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค. 2563  ช่วงลาดกระบัง-อู่ตะเภา  จำนวน 113 สัญญา คาดแล้วเสร็จภายในเดือน  ต.ค.2563  ทั้งนี้คาดเปิดเดินรถของโครงการฯ ได้ภายในเดือน ม.ค.2569

 

อ่านข่าว ปั้นขุมทอง “เมืองการบิน” เจรจา 47 วัน เร็วสุดในประวัติศาสตร์

อ่านข่าว รอบอู่ตะเภาคึก ดันที่ดินพุ่งกระฉูดไร่ละ30ล้าน

ขณะเดียวกันเอกชนได้ขอขยายเขตทางเพิ่ม 6 จุด  ประกอบด้วย 1.ลาดกระบัง  2.ทางออกสนามบินสุวรรณภูมิ ช่วงจุดตัดทางรถไฟ  3.บริเวณประตูน้ำ  กรมชลประทาน  4.บริเวณข้ามแม่น้ำบางปะกง 5.อุโมงค์เขาชีจรรย์ และ 6.บริเวณทางเข้าสนามบินอู่ตะเภา  ปัจจุบันมีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนที่ดิน ทั้งสิ้น 48 ราย จำนวน 63 แปลง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่ได้รับผลกระทบบริเวณที่ถูกเวนคืนที่ดินดังกล่าว ซึ่งจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค.2563  หลังจากนั้นจะสรุปข้อมูลความเห็นของประชาชน ภายใน เดือน ส.ค.2563 รวมถึงจะต้องดูผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เนื่องจากมีการเปลี่ยนแนวเส้นทางเพิ่มเติม 6 จุด  และเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ภายในเดือน ส.ค.2563  คาดว่าจะดำเนินการลงนามสัญญาซื้อขายบริเวณที่ดินที่ถูกเวนคืนได้ภายในเดือน พ.ย.2563 และส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ภายใน ก.พ.2564

นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนการขอเข้าพื้นที่ของหน่วยงานเจ้าของพื้นที่เพื่อรื้อย้ายสาธารณูปโภคเร่งด่วนนั้น โดยหน่วยงานที่เป็นเจ้าของพื้นที่ต้องรื้อย้ายสาธารณูปโภค  อาทิ กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) กรมเจ้าท่า (จท.) กรมชลประธาน การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กรมป่าไม้ ฯลฯ  เบื้องต้นมี หน่วยงานที่ดำเนินการขอเข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการรื้อย้ายสาธารณูปโภคเป็นกรณีเร่งด่วนแล้ว อาทิ ปตท.ได้รับอนุญาตจากทล. ช่วงพญาไท-ดอนเมือง เพื่อดำเนินการปักท่อแก๊ส  การประปานครหลวง ได้รับอนุญาตจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) ช่วงลาดกระบัง-อู่ตะเภา  และช่วงพญาไท-ดอนเมือง  การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)ได้รับอนุญาตจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) จำนวน 9 จุด  การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า (จท.) เพื่อดำเนินการพื้นที่ของ จท. ฯลฯ

 

“ทั้งนี้เราได้เร่งรัดให้หน่วยงานเจ้าของพื้นที่ให้ดำเนินการแจ้งหน่วยงานที่ขอเข้าพื้นที่ในการยื่นเอกสารต่างๆ ให้ครบถ้วนและต้องสนับสนุนในการให้อนุญาต เนื่องจากพื้นที่บริเวณบางส่วนยังไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของพื้นที่ หลังจากนั้นให้กลับมารายงานความคืบหน้าอีกครั้งในการประชุมครั้งถัดไป”