ดาวโจนส์ปิดบวก 8.92 จุด ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ

20 ก.ค. 2563 | 23:43 น.

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,680.87 จุด เพิ่มขึ้น 8.92 จุด หรือ +0.03% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,251.84 จุด เพิ่มขึ้น 27.11 จุด หรือ +0.84% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,767.09 จุด เพิ่มขึ้น 263.90 จุด หรือ +2.51%

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) รับข่าวรายงานที่ว่า วัคซีนซึ่งบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดนั้น สามารถสร้างภูมิต้านทานเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเพียงเล็กน้อย เนื่องจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมได้สกัดแรงบวกในตลาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,680.87 จุด เพิ่มขึ้น 8.92 จุด หรือ +0.03% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,251.84 จุด เพิ่มขึ้น 27.11 จุด หรือ +0.84% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,767.09 จุด เพิ่มขึ้น 263.90 จุด หรือ +2.51%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจาก The Lancet ซึ่งเป็นวารสารทางการแพทย์ เปิดเผยว่า วัคซีน ChAdOx1 nCoV-19 ที่ได้รับการพัฒนาโดยแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สามารถสร้างภูมิต้านทานเชื้อไวรัสโควิด-19 ในการทดลองเฟสแรกกับอาสาสมัครจำนวนมากกว่า 1,000 คน

ทั้งนี้ ผลการทดลองวัคซีนดังกล่าวพบว่า ร่างกายของอาสาสมัครเหล่านี้สามารถผลิตแอนติบอดีและเม็ดเลือดขาวในการกำจัดเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ยังมีการพบแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์ (Neutralizing antibody) ในอาสาสมัครหลังจากได้รับวัคซีนเป็นเวลา 28 วัน โดยนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าแอนติบอดีดังกล่าวมีความสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19

หุ้นไฟเซอร์ ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่สุดของสหรัฐ ดีดขึ้น 0.72% ขานรับข่าวไฟเซอร์ และ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี ทำข้อตกลงกับรัฐบาลอังกฤษในการส่งมอบวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จำนวน 30 ล้านโดสในปีนี้และปีหน้า

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นและเป็นปัจจัยหนุนดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยหุ้นอเมซอนดอทคอม ทะยานขึ้น 7.93% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 4.3% หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 2.11% หุ้นเฟซบุ๊ก บวก 1.4% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 3.1% หุ้นอินเทล บวก 1.92% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (เอเอ็มดี) พุ่ง 4.4%

หุ้นกลุ่มอตุสาหกรรมร่วงลงและเป็นปัจจัยสกัดแรงบวกของดัชนีดาวโจนส์ โดยหุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก ดิ่งลง 2.9% หุ้น 3M ร่วงลง 2.16% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ร่วงลง 1.64% หุ้นโบอิ้ง ลบ 0.7%

หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลง หลังจากคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งของสหรัฐเปิดเผยว่า ความต้องการด้านการเดินทางในสหรัฐปรับตัวลดลง โดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ร่วงลง 3.69% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ดิ่งลง 4.69% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ร่วงลง 3.1%
         

 นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทชั้นนำของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ไมโครซอฟท์, เทสลา, อินเทล และเวริซอน คอมมิวนิเคชันส์

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเจรจาระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรสเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ เนื่องจากโครงการช่วยเหลือคนว่างงานจะหมดอายุลงในวันที่ 31 ก.ค.นี้

นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนมิ.ย.จากเฟดชิคาโก, ดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ค., ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมิ.ย.จาก Conference Board, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนก.ค.จากมาร์กิต และยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย.