ครม.เศรษฐกิจชุดใหม่
ต้องปลอดยี้ นำพาประเทศ
การลาออกของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และกลุ่ม “4 กุมาร” ประกอบด้วย นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เพื่อลดแรงกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สามารถเดินหน้าปรับคณะรัฐมนตรี เปิดทางประเทศเดินหน้าต่อได้
คงต้องยอมรับว่าการลาออกของ นายสมคิด และกลุ่ม 4 กุมาร นับเป็นการเปลี่ยนแปลงทีมเศรษฐกิจครั้งสำคัญของรัฐบาลในช่วงที่ประเทศกำลังประสบกับวิกฤติเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างรุนแรงในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินว่าจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกหยุดชะงักอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มหดตัวรุนแรงในปี 2563 โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2563 จะหดตัวสูงถึง 8.1% และระยะเวลาของการฟื้นตัวยังมีความไม่แน่นอนสูง อีกทั้งยังต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างภายหลังการแพร่ระบาดสิ้นสุดลงอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จับตาตั้ง ‘ศบค.เศรษฐกิจ’ แก้เกมรุมทึ้งเก้าอี้รมต.
นายกฯยอมรับการเมืองมีเอี่ยวทำให้ 4 กุมาร ยื่นใบลาออก
สมคิด-4 กุมาร ยื่นลาออก (ประมวลภาพ+คลิป)
ส่อง “ดรีมทีมเศรษฐกิจ” ลุงตู่ ในวัน 4 กุมารระส่ำ
หากดูจากเสียงสะท้อนจากภาคเอกชนพบว่า ผู้ที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีเศรษฐกิจชุดใหม่ จะต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถ ต้องได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วนทั้งเอกชน ข้าราชการ รวมถึงประชาชน เร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างรวดเร็ว เพราะปัญหาในขณะนี้ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายทีมเศรษฐกิจใหม่ที่จะต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ตรงจุดและทันต่อสถานการณ์
อย่างไรก็ตาม การปรับครม.ครั้งนี้ยังมีโจทย์ใหญ่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลจะต้องปลดล็อก นั่นคือความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ ที่ยังคุกรุ่นอย่างต่อเนื่อง เพราะหลังจากปรากฏชื่อผู้ที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีเศรษฐกิจคนใหม่ โดยเฉพาะ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มีข่าวว่าถูกทาบทามให้เข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่ กลับมีแรงกระเพื่อมจากกลุ่มสามมิตร ที่หมายมั่นจะผลักดันให้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เข้ามานั่งอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ด้วยการระดม ส.ส. และแนวร่วมในพรรคพลังประชารัฐ เตรียมเคลื่อนไหวกดดันนายกฯ ให้ยุบสภา หากไม่ได้ตามที่ต้องการ
เราเห็นว่าในสถานการณ์ที่บ้านเมืองกำลังเผชิญวิกฤติรอบด้าน พล.อ.ประยุทธ์ ต้องแต่งตั้งบุคคลที่มีประสบการณ์ มีความรู้ ความสามารถ และเป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่าย เข้ามาแก้ปัญหา นำพาประเทศก้าวพ้นวิกฤติที่เกิดขึ้น