ขณะที่ธุรกิจโดนผลกระทบโควิด แต่ Netflix กลับมีรายได้เติบโต ทั้งนี้ Netflix ได้ประกาศงบไตรมาสที่สอง ว่า Netflix มีรายได้โต 25% ถึงรายได้เติบโตแต่ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 10%
Netflix ได้ประกาศผลประกอบการในไตรมาสที่สอง (เม.ย. - มิ.ย.) ของปี 2020 ได้รายงานว่า บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 194,892 ล้านบาท เติบโต 24.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน และ เป็นรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 192,736 ล้านบาท
ส่วนในฝั่ง ยอดจำนวนบัญชีสมาชิกใหม่ (Paid Memberships) เพิ่มขึ้น 10.1 ล้านบัญชีสูงกว่านักวิเคราะห์คาดที่ 8.3 ล้านบัญชี ส่งผลให้ในขณะนี้ Netflix มีผู้ใช้งานรวมเป็น 193.0 ล้านบัญชี เติบโต 5.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
ภายหลังบริษัทได้ประกาศงบออกไปราคาหุ้นของ Netflix ปรับตัวลดลง 10% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ สาเหตุหลักมาจากนักลงทุนต่างผิดหวังต่อผลกำไรที่บริษัททำได้และผิดหวังต่อ Guidance ในเรื่องผลประกอบการในไตรมาสที่สาม ของบริษัททั้งนี้ ในไตรมาสที่สอง บริษัทมีกำไรอยู่ 22,824 ล้านบาท เติบโต 166% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 50.4 บาท/หุ้น แต่ยังต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 57.4 บาท/หุ้น
ส่วนเรื่อง Guidance ในไตรมาสที่สามNetflix คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 200,661 ล้านบาท ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์หวังไว้ที่ 202,880 ล้านบาท และคาดว่าจะมี ยอดจำนวนสมาชิกใหม่ เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบัญชีต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด ว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น 5.3 ล้านคน
การเติบโตที่จะชะลอ เป็นเพราะผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และสภาวะทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ซึ่งอาจกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค และใน เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Netflix ก็ได้เริ่มดำเนินการระงับบัญชีสมาชิกที่ไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นเวลา 1 ปี แม้จะจ่ายค่าสมาชิกรายเดือนอยู่ เป็นจำนวนหลายแสนบัญชี รวมไปถึง การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสตรีมมิง เช่น Disney+, HBO Now, Amazon Prime, Hulu, Apple TV+หรือแอปโซเชียล มีเดียต่างๆ ที่คอยมาแย่งเวลาการเสพคอนเทนต์ของผู้บริโภคในแต่ละวัน โดยเฉพาะแอป TikTok ที่ทาง Netflix ยอมรับว่า ตกใจกับการเติบโตของแอปในช่วงล็อกดาวน์ และมองว่าเป็นอีกคู่แข่งที่สำคัญ..“การเติบโตของ TikTok นั้นน่าประหลาดใจอย่างมาก” Netflix กล่าวในรายงานต่อผู้ถือหุ้น
ขณะที่ การผลิตคอนเทนต์ของ Netflix แผนฉาย Original Content สำหรับปี 2021 ของบริษัทอาจต้องระงับการลงทุน และหยุดการถ่ายทำไปก่อน เพราะติดเรื่องโควิด-19
นอกจากนี้ Netflix ยังได้ประกาศให้ นายเท็ด สารนดอส Chief Content Officer ของบริษัท ขึ้นมาเป็น co-CEO โดยทำงานร่วมกับ นายรีด ฮาสติงส์ ซึ่งเป็น CEO คนปัจจุบัน สรุปแล้ว ธุรกิจของ Netflix ยังคงเติบโตอยู่ แต่จะเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง เนื่องด้วยข้อจำกัดด้านโควิด-19 และการแข่งขันในตลาดคอนเทนต์ที่รุนแรงมากขึ้น