“สนธิรัตน์” แจงลาออกเพราะอยากเห็น "การเมือง" เดินหน้า

16 ก.ค. 2563 | 10:25 น.

“สนธิรัตน์” เปรียบตนเองเป็น "มดงาน" พร้อมแจงลาออกเพราะอยากเห็น "การเมือง" เดินหน้า ระบุไม่ต้องการให้เกิดภาวการณ์ชะงักงันของรัฐบาล

รายงานข่าวระบุว่า นายสนธิรัตน์  สนธิจิรวงศ์  อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โพสเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีเนื้อหาระบุว่า “มดงาน” มีหน้าที่ของมันครับ ตั้งหน้าตั้งตาทำงานเพื่อส่วนรวมที่ใหญ่กว่า คือภารกิจในการดำรงอยู่ของมัน ผมมักบอกกล่าวกับผู้คนที่ทำงานร่วมกันเสมอว่าเป็นคนทำงาน ก็ต้องทำหน้าของตัวเองให้ดีที่สุด ซึ่งเปรียบเหมือน “มดงาน” นั่นแหละครับ

ตลอดระยะเวลา 1 ปีมานี้ ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ภายใต้การทำงานอย่างใกล้ชิดกับท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผมจึงได้ใช้ความรู้ความสามารถ ปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดกำลัง เต็มความสามารถ ซื่อตรง และรับผิดชอบอย่างสูงสุด

ผมตั้งใจตั้งแต่แรกแล้วว่าอยากทำให้มิติเรื่องพลังงาน ซึ่งถูกมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนอย่างจับต้องได้ จึงริเริ่มไอเดีย “พลังงานเพื่อทุกคน” หรือ Energy for All และเดินหน้าผลักดันนโยบายด้านพลังงานหลายประการ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนตลอดจนประเทศชาติ ครบทุกมิติครอบคลุมรอบด้าน

“สนธิรัตน์” แจงลาออกเพราะอยากเห็น "การเมือง" เดินหน้า

สำหรับเหตุผลของการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานครั้งนี้ ก็เพราะผมอยากเห็นการเมืองเดินหน้าต่อไปได้ และไม่ต้องการให้เกิดภาวการณ์ชะงักงันของรัฐบาล อันจะเป็นการซ้ำเติมต่อความทุกข์ยากและปัญหานานาชนิดที่พี่น้องประชาชนประสบอยู่ในขณะนี้

ถึงแม้ว่า ผมจะลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแล้วก็ตาม แต่ผมก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะใช้เวลาและโอกาสในการทำงานและปฏิบัติกิจกรรมทางสังคมที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ตามกำลัง ประสบการณ์ และความสามารถของผม เหมือนดั่งเช่นที่เคยได้กระทำมาโดยตลอด ผมถือว่าประเทศชาติจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้นั้น จำเป็นต้องมี "มดงาน" ที่ทำงานหนักครับ เสียสละความสุขส่วนตน เพื่อความสุขโดยรวม อันจะเป็นรากฐานให้กับความอยู่ดีมีสุขของคนอื่นๆ ต่อไป

สุดท้ายนี้ ผมขอกราบขอบพระคุณ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ให้โอกาสในการเข้ามาทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน ผมขอขอบคุณ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ กระทรวงพลังงานทุกคน และหน่วยงานราชการต่างๆ ที่ได้ร่วมกันทำงานและร่วมกันผลักดันนโยบาย "พลังงานเพื่อทุกคน" หรือ Energy for All ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา

ที่สำคัญที่สุด ผมขอขอบคุณ พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งมวลและสื่อมวลชน ที่คอยติดตามและแนะนำการทำงานของกระผม ทั้งยังส่งกำลังใจมาถึงผมอย่างต่อเนื่องตลอดมา