นายอรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ สวนสามพราน กล่าวว่า หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย พบความต้องการขององค์กร นักท่องเที่ยว ทั้งกลุ่มใหม่ และกลุ่มลูกค้าเดิม ที่อยากมาใช้บริการ สวนสามพราน และอยากเรียนรู้เรื่องสุขภาพ การพึ่งพาตนเอง วิถีชีวิตแบบพอเพียงกันมากขึ้น ทางทีมจึงเห็นตรงกันว่าตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม เป็นไป จะเปิดให้บริการแบบครบวงจร ทั้งห้องพัก ห้องประชุมสัมมนา ห้องอาหาร งานแต่งงาน รวมถึงกิจกรรมท่องเที่ยว โดยให้ความสำคัญกับมาตรฐานความปลอดภัย การเว้นระยะห่างทางสังคม สุขอนามัย ทุกจุด และสร้างความเชื่อมั่น ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยภายใต้สัญลักษณ์ SHA ที่ออกให้โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
จากการดำเนินกิจการภายใต้โมเดลธุรกิจเกื้อกูลสังคม การพึ่งพาตนเอง เกื้อกูลธรรมชาติ ไม่มีการใช้สารเคมี และ มีการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ ใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน จัดการขยะอาหาร นำไปแปรรูป และนำกลับมาใช้ใหม่ และในช่วงที่ปิดไปพนักงานทุกตำแหน่ง ทุกฝ่าย ต่างร่วมแรงร่วมใจ ช่วยกันดูแลพื้นที่รักษาธรรมชาติในสวน ปรับตัวเรียนรู้สิ่งใหม่ร่วมกัน
เบื้องต้นทุกคนที่เข้ามา ต้องได้รับความเพลิดเพลิน ผ่อนคลาย พักผ่อนสบายในบรรยากาศธรรมชาติ ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ดี ได้รับประทานอาหารอร่อยๆ ที่ปรุงด้วยวัตถุดิบอินทรีย์ ไม่น้อยกว่า 70% ที่โรงแรมปลูกเอง และจากเกษตรกรพันธมิตร และอยากให้ทุกคนที่มาสวนสามพรานได้แรงบันดาลใจ และเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน
"จากสถานการณ์ที่ผ่านมา สอนให้เราเห็นคุณค่าของการเรียนรู้ การลงมือทำ การพึ่งพาตนเอง การมีชุมชน มีเกษตรกรเป็นพันธมิตร ตลอดจนการให้ความสำคัญกับพนักงาน อยากให้ทุกคนได้สัมผัสพื้นที่ด้วยตัวเอง ได้เห็นการทำงานของเรา ได้ฟังเส้นทางเรียนรู้และประสบการณ์ที่มีคุณค่า ซึ่งเราพร้อมที่จะแชร์ ให้ทุกท่านที่เข้ามาท่องเที่ยว มาใช้พื้นที่สวนสามพราน ได้เก็บเกี่ยวความรู้ แล้วนำกลับไปทำ ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน หรือ ไปขยายผลสู่องค์กรของตนเอง"
สวนสามพราน ตั้งอยู่ถนนเพชรเกษม ในพื้นที่อำเภอสามพราน จังหวัด นครปฐม มีเนื้อที่ประมาณ130 ไร่ โอบล้อมด้วยธรรมชาติเงาร่มไม้ใหญ่ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 100 ไร่ ริมแม่น้ำท่าจีน มีบ้านพักทรงไทย อาคารโรงแรม ห้องอาหาร ห้องประชุมสัมมนา คาเฟ่ สามพรานโมเดล อะคาเดมี่ มีพื้นที่จัดกิจกรรมจัดงานแต่งงาน มีตลาดสุขใจ และมีปฐมออร์แกนิกวิลเลจ หรือหมู่บ้านปฐม ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้และสัมผัสวิถีการกิน-อยู่ การดูแลสุขภาพ และการพึ่งพาตนเอง ผ่านกิจกรรมเวิร์คช็อป ตามเส้นทางวัตถุดิบได้แก่ เส้นทางข้าว เส้นทางสมุนไพร และเส้นทางกล้วย
ส่วนอีก 30 ไร่ ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่ของ ปฐมออร์แกนิกฟาร์ม แหล่งผลิตวัตถุดิบอินทรีย์ ปลูกผักหลากหลายชนิด ที่นี่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้สนุกกับการเรียนรู้ระบบวงจรฟาร์มอินทรีย์ เศรษฐกิจหมุนเวียน และมีกิจกรรมให้เก็บผักทำอาหารแบบครัวไทย กิจกรรมตามฤดูกาล