“4 กุมาร” ชะตากรรม อยู่ในมือ “ลุงตู่”

11 ก.ค. 2563 | 22:00 น.

“4 กุมาร” ชะตากรรม อยู่ในมือ “ลุงตู่” : คอลัมน์ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3591 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 12-15 ก.ค.63 โดย... ว.เชิงดอย

“4 กุมาร” ชะตากรรม อยู่ในมือ “ลุงตู่”

 

     +++ “การเปลี่ยนแปลงในอนาคต เป็นเรื่องที่เข้าใจกันได้ ทุกคนเข้าใจกันดี พวกผมจะทำหน้าที่ที่เรามีอย่างเต็มที่ หากจะมีการปรับเปลี่ยนใดๆ ในคณะรัฐมนตรี ก็เป็นเรื่องของอำนาจนายกฯ” อุตตม สาวนายน รมว.คลัง อดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) พูดตอนหนึ่งในการแถลงข่าวลาออกจากสมาชิกพรรค พปชร. เมื่อวันที่ 9 ก.ค.2563 ที่ผ่านมา
 

     +++ “ความผูกพันคือสายใยที่ไม่ได้หายไป การลาออกจากพรรคของพวกเรา ไม่ได้หมายความว่าเราตัดขาดสายใยต่อกัน เราจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เราเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน เราไม่มีความขัดแย้งหรือโกรธชังกันในเรื่องต่างๆ เป็นเพียงวิถีของการเดินไปข้างหน้า กลุ่มพวกเรามีความคิดแบบนี้ มีวิถีปฏิบัติแบบนี้ เราก็เลือกทางเดินในวิถีของเรา” สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน อดีตเลขาธิการพรรค กล่าวตอนหนึ่งในการแถลงข่าวลาออกจากสมาชิกพรรค พปชร.
 

ข่าวที่เกี่ยงข้อง
ส่อง “ดรีมทีมเศรษฐกิจ” ลุงตู่ ในวัน 4 กุมารระส่ำ
‘4 กุมาร’ ความทรงจำอันลํ้าค่า
ปรับครม. อย่าให้ร้อง “ยี้”
“ธนกร”ยก 4 กุมารสปิริตของสุภาพบุรุษการเมือง

     +++ บนเส้นทางการเมืองของ กลุ่ม “4 กุมาร" ใน พปชร. นอกจากอุตตม สาวนายน และ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ แล้ว สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม อดีตรองหัวหน้าพรรค และ กอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกฯ อดีตกรรมการบริหารพรรค ที่ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค พปชร. พร้อมกันแล้ว ต่อไปนี้ก็เหลือแต่เพียงลุ้นว่า “อุตตม-สนธิรัตน์-สุวิทย์” จะยังมีชื่ออยู่ร่วม “ครม.บิ๊กตู่”ต่อไปหรือไม่ ส่วน กอบศักดิ์ ภูตระกูล ต้องลุ้นว่าจะยังได้เป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (ช่วยงาน ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ) อยู่อีกหรือไม่ ชะตากรรมทางการเมืองของ “4 กุมาร” ขึ้นอยู่กับ “ลุ่งตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”  นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แต่เพียงผู้เดียว
 

     +++ การ “ปรับ ครม.” จะมีขึ้นเมื่อใด “นายกฯตู่” ออกมาพูดไว้ชัดเจนแล้ว ภายหลัง “4 กุมาร” ลาออกจากสมาชิกพรรคพปชร. ว่า “เรื่องที่ถามมาเป็นประเด็นร้อนในการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคของทั้ง 4 คน ผมก็เคารพการตัดสินใจ ถือเป็นเรื่องภายในพรรค ในส่วนการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นวิถีทางทางการเมือง การเข้ามาเป็นส.ส. การเข้ามาเป็นรัฐมนตรี การจะเข้ามาเป็น ครม. การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องมีการไปพูดคุยเจรจากัน ผมยังไม่มีให้ว่าใครจะเป็น ใครจะเข้า ใครจะออก เพราะเราต้องคุยกับพรรคการเมือง พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งขอให้ใจเย็นๆ”
 

     +++ ส่วนที่ที่มีข่าวว่ากำหนดไว้ว่าเดือนก.ย.จะปรับครม.ถึงวันนี้จะเร็วขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า “การปรับครม.ใครปรับหรือยัง ผมพูดเมื่อไหร่ว่าจะมีขึ้นในเดือนกันยายน ผมไม่เคยพูดจะปรับในเดือนกันยายน ไปตีความกันเอง แต่จะเป็นช่วงไหนก็ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ยืนยันว่าใครจะวิ่ง คนวิ่งมาก ก็อาจจะไม่ได้ก็ได้ ขอร้องว่าอย่าทำให้เกิดความสับสนอลหม่าน  ใครจะวิ่งก็วิ่งไป ผมจะตัดสินใจด้วยตัวเอง และผมก็ต้องคุยกับหัวหน้าพรรคทุกพรรค” สำหรับ “4 กุมาร” ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคพปชร.แล้วจะส่งผลต่อเก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า  เป็นเรื่องกลไกภายในพรรค เพราะสัดส่วนในการเข้ามาเป็นรัฐมนตรีมาจากพรรคการเมืองเป็นอันดับแรก โควต้าคนนอกก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง อย่าลืมว่าผมก็ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคพปชร. เพราะฉะนั้นสัดส่วนรัฐมนตรีก็ต้องฟังจากพรรคเป็นหลัก การจะนำคนนอกเข้ามาก็เป็นโควต้าของเขา ซึ่งผมก็ขอเขามาและเขาก็ให้ผมเข้ามาตรงนี้ รวมทั้งมีรัฐมนตรีหลายคนที่มากับผมด้วย”

     +++ เมื่อนักข่าวถามย้ำว่าการที่ “4 กุมาร” ลาออกจากพปชร. ถือว่าเป็นโควต้าของนายกฯ ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “เดิมก็เป็นเช่นนั้นอยู่ และเป็นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ดังนั้นวันนี้ต้องไปดูว่าโควต้าเหมาะสมแล้วหรือยัง ใครจะได้เพิ่ม ใครจะได้ลดอย่างไรก็ไปว่ากันอีกที และการ “ปรับครม.” ก็เท่าที่จำเป็น ใครที่เขาทำงานดีอยู่แล้วก็ให้เขาทำงานต่อ ที่ผ่านมาทุกคนทำงานดีทั้งหมด ผมไม่ได้ว่าใครไม่ดี เพียงแต่กลไกทางการเมืองและวิถีทางการเมืองเป็นอีกเรื่องหนึ่ง”
 

     +++ “ครม.ใหม่ถ้าปรับก็ต้องปรับในส่วนของเศรษฐกิจด้วย เพราะครม.เศรษฐกิจ มีหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้อง” นายกรัฐมนตรี ระบุ และเมื่อถูกถามว่าหัวหน้าทีมเศรษฐกิจมองคนนอกไว้หรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “ก็มองไว้ทั่วทุกกลุ่ม ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมดูไว้ทั้งหมด รวมทั้งด้านสาธารณสุขก็ดู เพราะต้องรับผิดชอบทั้งครม.” ทั้งหมดคือ สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 9 กรกฏาคม 2563
 

     +++ ก่อนหน้านั้นวันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะ ได้ไปพบคณะผู้บริหารหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ เพื่อพูดคุยรับฟังมุมมองในการขับเคลื่อนประเทศ และได้พูดถึงเรื่องการ “ปรับครม.” ว่า “การปรับครม.เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะผมไม่เคยพูดว่าจะไม่ปรับ แต่ต้องให้ประเทศเดินหน้าไปก่อน ต้องรอให้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 เสร็จเรียบร้อยออกมาก่อน และการใช้งบประมาณในการดูแลและฟื้นฟูเศรษฐกิจเริ่มมีความคืบหน้า เป็นไปอย่างเรียบร้อยและชัดเจนก่อน จากนั้นจึงจะปรับครม.เพื่อให้รัฐบาลเดินหน้าต่อไปอย่างไม่ติดขัด”
 

     +++ ตรงนี้นี่แหละที่ทำให้วิเคราะห์ไปได้ว่า การที่นายกฯ บอกว่า ต้องรอให้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2564 ผ่านออกมาเป็นกฎหมายบังคับใช้ก่อน จึงจะปรับ ครม.นั้น ตามไทม์ไลน์การจัดทำงบประมาณ ขณะนี้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ได้ผ่านวาระ 1 ของสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว เมื่อวันที่ 3 กรกฏาคม 2563 และอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการแปรญัตติฯ ที่มีกรอบเวลา 30 วัน หลังจากนั้นจึงเสนอเข้าสู่สภาฯ วาระ 2-3 ซึ่งเมื่อผ่านสภาผู้แทนฯ แล้ว จะเป็นการพิจารณาของวุฒิสภา ก็คาดการณ์กันว่า ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2564 น่าจะมีผลบังคับใช้ได้กลางเดือนกันยายน 2563 และการปรับครม.ก็คาดว่าจะเกิดขึ้นได้ในช่วงปลายเดือน “กันยายน” เช่นเดียวกัน ...จะปรับใครก็ปรับไปเถอะ “ท่านนายกฯ”  แต่ปรับแล้วขออย่าให้ประชาชนร้อง “ยี้” ก็แล้วกัน