คนเวียดนามแห่ซื้อสินค้าไทย “ผลไม้-เครื่องใช้ไฟฟ้า-เสื้อผ้า” สุดฮอต

11 ก.ค. 2563 | 06:40 น.

DITP โชว์ผลการจัด Mini Thailand Week 2020 ที่ไฮฟอง เมืองรองเวียดนาม สำเร็จเกินคาด ชาวเวียดนามแห่ซื้อสินค้าไทยทะลัก 1.2 แสนคน ทำยอดขาย 5.97 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 18 ล้านบาท ผลไม้-เครื่องใช้ไฟฟ้า- เครื่องประดับ-ของใช้ในบ้าน-เสื้อผ้า-รองเท้า สุดฮอต เรียกร้องให้จัดแบบนี้อีกทุกปี

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความสำเร็จของการจัดงานแสดงสินค้า Mini Thailand Week 2020 ณ เมืองไฮฟอง ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 25-28 มิถุนายน 2563 โดยนายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า การจัดงานในครั้งนี้มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงาน 40 ราย 67 คูหา และถือว่าประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย โดยได้รับความสนใจจากประชาชนในเมืองไฮฟองเป็นอย่างยิ่ง มีผู้เข้าชมงานในช่วง 4 วัน มีจำนวนถึง 120,000 คน มีมูลค่าการซื้อขายสินค้าประมาณ 597,000 เหรียญสหรัฐ หรือกว่า 18 ล้านบาท โดยสินค้าที่ได้รับความสนใจมากที่สุด ได้แก่ ผลไม้ไทย ดอกไม้ประดิษฐ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น พัดลม พัดลมไอน้ำ เครื่องประดับ ของใช้ในบ้าน เช่น ยาสระผม ครีมอาบน้ำ ผงซักฟอก และน้ำยาล้างจาน ผลิตภัณฑ์พลาสติก เสื้อผ้า รองเท้า และอื่นๆ

ทั้งนี้ ในช่วงการจัดงานนอกเหนือจากโซนขายสินค้ายังจัดให้มีพื้นที่จัดสาธิตศิลปวัฒนธรรมไทย มีคูหา information stand ของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงฮานอย เพื่อให้ข้อมูลด้านธุรกิจและสินค้าไทยกับผู้ที่สนใจรวมถึงพื้นที่จัดแสดงตราสัญลักษณ์ Thai Select และ Thailand Trust Mark ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวเมืองไฮฟองเช่นเดียวกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลุ้นเวียดนามหยุดส่งออก ดันออร์เดอร์ข้าวทะลักไทย

เวียดนาม ประกาศคืนชีพส่งออกข้าว 1 พ.ค.นี้

“การจัดงานในครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จเกินคาด เพราะผู้เข้าร่วมงานทั้งหมดแสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่ามีความพึงพอใจมากกับการจัดงาน และอยากให้มีการจัดงานขึ้นทุกๆปี อยากให้มีรูปแบบการจัดงานที่มีสินค้าหลากหลาย เพราะสินค้าไทยมีคุณภาพ เหมาะสมกับราคา และขอให้จัดงานใหญ่ยิ่งขึ้น รวมทั้งมีความชอบในการแสดงศิลปะไทยทั้งหมด ได้แก่ ศิลปะการแสดง และอาหารไทย และมีผลไม้ไทยให้ลองทานภายในการจัดงาน”นายสมเด็จกล่าว

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์

ด้านนางสาวพรรณกาญจน์ เจียมสุชน ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงฮานอย เวียดนาม กล่าวว่า จากการสอบถามความเห็นผู้บริโภค และการสังเกตพฤติกรรมผู้บริโภคที่เดินทางมาเยี่ยมชมงาน พบว่าสินค้าไทย ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้า แม้จะมีราคาแพงกว่าสินค้าประเภทเดียวกันที่ผลิตจากจีนหรือเวียดนาม เพราะสินค้าไทยมีความคุ้มค่าต่อราคาที่ได้ซื้อไป เช่น สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า พัดลม พัดลม ไอน้ำ มีคุณภาพดี ทนทาน สำหรับสินค้าดอกไม้ประดิษฐ์ที่ทำจากผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากชาวเวียดนามเหนือ นิยมประดับตกแต่งบ้านด้วยดอกไม้และจะซื้อพร้อมกับแจกันหรือภาชนะที่ผลิตจากธรรมชาติ เช่น ไม้มะม่วง เป็นต้น นอกจากนั้นผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวและอาหารต่างๆ ยังคงได้รับความนิยมจากผู้บริโภค เนื่องจากมั่นใจในคุณภาพสินค้า สำหรับสินค้าที่ขายดีอีกประเภท ได้แก่ น้ำยาล้างอัญมณี เนื่องจากชาวไฮฟองเป็นคนมีฐานะดี มีทรัพย์สินในรูปอัญมณีอยู่มาก ถึงแม้ว่าจะไม่นิยมนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน แต่จะนำออกมาใช้ในการออกงานสำคัญ จึงต้องการหาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพทำความสะอาดอัญมณี

“การจัดงานในครั้งนี้ นอกจากจะสามารถประชาสัมพันธ์สินค้าไทย ให้เป็นที่รู้จักของชาวไฮฟองแล้ว ยังก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีกับหน่วยงานท้องถิ่น ซึ่งการจัดงานทุกครั้งจะได้รับเกียรติจากหน่วยงานท้องถิ่นในการร่วมพิธีเปิดงาน อาทิ คณะกรรมการประชาชนส่วนจังหวัด สำนักงานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ เมืองไฮฟอง และหอการค้าเวียดนาม สาขาเมืองไฮฟอง ซึ่งหน่วยงานต่างๆ มีความยินดีที่ สคต. ฮานอย จัดงานแสดงสินค้าที่เมืองไฮฟอง อันเป็นการแสดงให้เห็นว่าให้ความสำคัญ และเป็นการสานต่อการจัดงานที่ผ่านมา ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง พร้อมทั้งขอให้ สคต. พิจารณาการจัดงานที่ไฮฟอง เป็นประจำทุกปี โดยขอให้เพิ่มจำนวนผู้ประกอบการที่นำสินค้ามาจัดแสดง เนื่องจากเชื่อมั่น ว่าสินค้าไทยยังคงเป็นที่นิยมของชาวไฮฟองอีกมาก”น.ส.พรรณกาญจน์กล่าว

นางสาวพรรณกาญจน์ เจียมสุชน

สำหรับเมืองไฮฟอง เป็นเมืองที่มีความสำคัญรองจากกรุงฮานอย เนื่องจากเป็นเมืองท่าสำคัญทางตอนเหนือมีประชากรทั้งสิ้น กว่า 3 ล้านคน อาชีพส่วนใหญ่ ได้แก่ การบริการด้านการท่องเที่ยว การขนส่ง ภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รายได้ เฉลี่ยต่อหัว 2,900-3,000 เหรียญสหรัฐ ปัจจุบันมีทางด่วน เชื่อมต่อระหว่างฮานอยและไฮฟอง ส่งผลให้การสัญจรระหว่างฮานอยและไฮฟอง รวดเร็วและสะดวกสบายยิ่งขึ้น

ส่วนการจัดงาน Mini Thailand Week ที่เมืองไฮฟอง จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 7 โดยผู้เข้าร่วมงานเป็นบริษัทเวียดนามที่นำเข้าสินค้าไทย เพื่อนำเสนอสินค้าและผลิตภัณฑ์ไทย โดยมีเป้าหมายหลัก คือ การส่งเสริมผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม ของใช้ ในครัวเรือน และแฟชั่น (ชุดชั้นใน รองเท้า กระเป๋า) งานจัดขึ้นที่ Hai Phong International Exhibition Center ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางมาร่วมงานได้สะดวก เนื่องจากมีพาหนะสาธารณะ เช่น รถประจำทางวิ่งผ่านสม่ำเสมอ และบริษัทที่เป็นผู้รับจัดงานได้มีการลงสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์การจัดงานทั้งในสื่อสิ่งพิมพ์ท้องถิ่นและสื่อ ระดับประเทศ เพื่อเชิญชวนผู้บริโภคให้เดินทางมาเยี่ยมชมงานแสดงสินค้า ทำให้งานได้รับความสนใจยิ่งขึ้น