5 ทางเลือก‘4 กุมาร’ อนาคตขึ้นกับ บิ๊กตู่

12 ก.ค. 2563 | 05:11 น.

ปิดฉากการเป็น “สมาชิก” พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไปเรียบร้อยแล้วสำหรับกลุ่ม “4 กุมาร”

อันประกอบด้วย นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง อดีตหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน อดีตเลขาธิการพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม อดีตรองหัวหน้าพรรค และ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตกรรมการบริหารพรรค

นายอุตตม แถลงให้เหตุผลถึงการลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า ตอนตั้งพรรคและร่วมบริหารเพื่อมุ่งหวังให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ก็สำเร็จลุล่วงไปแล้ว และจะแม้ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ แต่ยังทำหน้าที่ในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามที่นายกฯ มอบหมายต่อไป เพื่อพี่น้องประชาชน

ต่อมา นายอุตตม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ในหัวข้อ “ผมจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้” โดยมีเนื้อหาว่า 

“ทุกท่านคงทราบข่าวเกี่ยวกับการลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ ของผมแล้วหลังจากได้แถลงข่าวไปเมื่อเที่ยงวันนี้ (9 ก.ค. 63)

ในการแถลงข่าวมีความชัดเจน ถึงสาเหตุที่ผมได้ตัดสินใจไปในครั้งนี้ และผมก็ขอยืนยันว่า ยังมีความผูกพันทางใจกับพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรค รวมทั้งเป็นคนหนึ่งที่ร่วมก่อร่างสร้างพรรคนี้ขึ้นมา แต่เมื่อวันนี้พรรคมีคณะกรรมการบริหารชุดใหม่แล้ว ก็เห็นว่าควรที่จะให้ผู้รับผิดชอบชุดใหม่ ได้ทำงานอย่างเต็มที่

สำหรับตัวผมแล้ว ในแง่มุมของการทำงานเพื่อบ้านเมืองนั้น ไม่ว่าจะสวมหมวกใบไหน ก็สามารถทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้

ดังนั้น ที่มีหลายคนถามว่า ผมมีความคิดจะตั้งพรรค การเมืองขึ้นใหม่หรือไม่ ผมขอยํ้าตรงนี้ว่า ไม่มี ขอทำงานในหน้าที่ที่รับผิดชอบให้เต็มที่ เต็มประสิทธิภาพ ไม่เคยคิดเรื่องอื่น ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุด

 

5 ทางเลือก‘4 กุมาร’  อนาคตขึ้นกับ บิ๊กตู่

 

ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน ประเทศไทยประสบปัญหาจากการระบาดของโควิด-19 จนส่งผลต่อภาวะทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก เหตุนี้เราจึงไม่มีเวลาแม้แต่นาทีเดียว ที่จะหยุดคิดหยุดทำ เพื่อให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากภัยเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น

สุดท้ายผมขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกท่าน ที่ให้การสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ และให้โอกาสผมได้ทำงานรับใช้ ผมยังจำคำพูดที่เคยให้ไว้ตั้งแต่เมื่อครั้งเลือกตั้ง ว่า ผมจะทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน เพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่เต็มความสามารถ ผมยังรักษาคำพูดนี้อยู่เสมอ”

ก่อนหน้านั้น ในการแถลงข่าวของ “4 กุมาร” ที่มีขึ้นที่โรงแรมเซ็นทารา เซ็นทรัลลาดพร้าว นายอุตตม ได้ตอบคำถามที่ว่าหากมีการตัดสินใจทำงานการเมืองต่อจากนี้ จะไปด้วยกันทั้งหมดหรือไม่ โดยนายอุตตม ตอบว่า “ในส่วนของพวกผมทั้ง 4 คน พวกเราผูกพันกันพอสมควร เราทำงานบริหารบ้านเมืองมาด้วยกัน และความผูกพันก็จะมีต่อไปแน่นอน”  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โพลหนุน ”4 กุมาร”แยกทาง "พปชร." อยากให้ร่วม ครม. ต่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

‘4 กุมาร’ ความทรงจำอันลํ้าค่า

ส่วน นายสนธิรัตน์ ตอบคำถามเช่นกันว่า การทำงานการเมืองเป็นเรื่องของการเสียสละ ไม่ใช่เรื่องของตัวบุคคล ความตั้งใจความมุ่งมั่นในการทำงานให้บ้านเมืองเป็นเรื่องที่สำคัญ 

“พวกผมทั้ง 4 คน ได้เข้ามาทำงานการเมืองอย่างเต็มที่ อนาคตเราไม่ทราบ หากมีโอกาสทำงานเพื่อบ้านเมืองที่ไม่จำเป็นต้องเป็นพรรคการเมืองเสมอไป อะไรที่เป็นประโยชน์จากประสบการณ์ที่เรามี พวกเราคงไม่คิดว่าจะไม่ช่วย เรา 4 คนมีความผูกพันทำงานเป็นทีมเดียวกันมา มีอะไรก็ช่วยกันหารือ ส่วนจะทำงานร่วมกันในอนาคตหรือไม่ เราพร้อมทำในบทบาทที่มีประโยชน์ แต่ไม่ได้คิดเรื่องการทำพรรค ขีดเส้นใต้ตรงนี้ด้วย” นายสนธิรัตน์ ระบุ

เมื่อ “4 กุมาร” สลัดความเป็นสมาชิกพรรค พปชร. ออกไปแล้ว พวกเขาจะวางอนาคตของตัวเองอย่างไรต่อไปนั้น

มีแนวทางที่มีโอกาสเป็นไปได้ 5 แนวทาง ประกอบด้วย

1.อยู่ร่วมคณะรัฐมนตรีต่อ ซึ่งขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่ายังจะใช้บริการต่อไปหรือไม่ 

กรณีนี้หาก “3 กุมาร” ที่ประกอบด้วย “อุตตม-สนธิรัตน์-สุวิทย์” ถูกโละออกจาก ครม.ทั้งหมด โอกาสที่ “หัวหน้าทีม” อย่าง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ และ นายกอบศักดิ์ จะหลุดไปด้วยก็มีโอกาสสูง เข้าทำนอง “มาด้วยกัน ไปด้วยกัน”  

แนวทางที่ 2 ลาออกจากรัฐมนตรี สถานการณ์ ณ ขณะนี้ ทั้ง “3 กุมาร” ยังยืนยันให้เป็นการตัดสินใจของ “นายกฯ” 

 

แต่ช่วงเวลากว่าจะไปถึงการ “ปรับ ครม.” ที่นายกฯ เคยบอกว่าจะมีขึ้นหลังจัดทำร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 แล้วเสร็จ ก็ไม่รู้ว่าระหว่างนี้จะมีแรงกดดันอะไรมาทำให้ “3 กุมาร” หรือ อาจจะรวมถึง นายสมคิด ด้วย ต้องลาออกก่อนหรือไม่? 

ไปดูแนวทางที่  3 หาก “4 กุมาร” ถูกปรับออกจากรัฐบาล และยังอยากทำงานการเมืองต่อ ก็อาจไปตั้งกลุ่มการเมือง หรือไปร่วมงานการเมืองกับพรรคอื่นที่มีอยู่แล้ว โดยไม่ต้องไปก่อตั้งพรรคเอง ตามที่ นายอุตตม ประกาศไว้ 

ส่วนแนวทางที่ 4 ตั้งพรรคการเมืองใหม่ แนวทางนี้มีโอกาสเป็นไปได้น้อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เป็นไปไม่ได้เอาเสียเลย เพราะการเมืองบางครั้งก็เอาอะไรแน่นอนไม่ได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย  

ส่วนแนวทางสุดท้าย แนวทางที่ 5 คือ ยุติเส้นทางการเมือง กลับบ้านเลี้ยงหลาน 

แนวทางนี้ สำหรับบางคนใน “4 กุมาร” ว่ากันว่า “เป็นไปได้น้อย” เพราะส่วนใหญ่คนที่เข้าสู่ถนนการเมืองแล้ว น้อยคนนักที่จะเลิกเล่นการเมืองง่ายๆ 

อนาคตของ “4 กุมาร” และอาจรวมถึงหัวหน้าทีม “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ด้วย จะเป็นไปในแนวทางใด ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ “นายกฯ ลุงตู่” เป็นปฐมบท 

 

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,591 หน้า 12 วันที่ 12 - 15 กรกฎาคม 2563