“ท็อปช็อป-แฮร์รอดส์” ปลดระนาว 1,200 คนเซ่นพิษโควิด

02 ก.ค. 2563 | 02:17 น.

ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ของอังกฤษ “แฮร์รอดส์-อาร์คาเดีย กรุ๊ป-เอสเอสพี กรุ๊ป” (Harrods-Arcadia Group-SSP Group) ประกาศปรับตัวรับ ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยการ ปลดพนักงาน นับพันตำแหน่ง หลังจากที่ภาคธุรกิจค้าปลีกต้องเผชิญกับมาตรการล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดของไวรัสเป็นเวลายาวนานถึง 3 เดือน ทำให้ต้องปิดสาขาหลายแห่งทั่วประเทศ รวมทั้งสำนักงานใหญ่เป็นการชั่วคราว  

 

นายไมเคิล วอร์ด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแฮร์รอดส์ ห้างสรรพสินค้าหรูของอังกฤษ เปิดเผยว่า บริษัทจำเป็นต้องปลดพนักงาน 672 คน หรือคิดเป็น 14% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด 4,800 คนซึ่งเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่เซอร์ ฟิลิป กรีน ประธานของอาร์คาเดีย กรุ๊ป เจ้าของแบรนด์ค้าปลีก “ท็อปช็อป” ประกาศปลดพนักงานในเวลาไล่เลี่ยกันมากกว่า 500 คน

 

ผู้บริหารของแฮร์รอดส์ ซึ่งปัจจุบันมีบริษัท การ์ตา อินเวสต์เมนท์ ออธอริตี จากประเทศการ์ตา เป็นเจ้าของ ระบุว่า มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) เพื่อความปลอดภัยทั้งของพนักงานเองและของลูกค้า ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการทำธุรกิจของบริษัท นอกจากนี้ มาตรการจำกัดการเดินทางของต่างชาติเข้าประเทศอังกฤษ ยังทำให้ลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่สร้างรายได้ให้กับแฮร์รอดส์ หาบวับไปในพริบตา

“ท็อปช็อป-แฮร์รอดส์” ปลดระนาว 1,200 คนเซ่นพิษโควิด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

โควิด-19 ทุบเศรษฐกิจอังกฤษร่วงหนักสุดในประวัติศาสตร์

เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา เซอร์ฟิลิป กรีน ซีอีโอของอาร์คาเดีย กรุ๊ป ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ค้าปลีกแฟชั่นอย่างท็อปช็อป และโดโรธีพาร์กิน เปิดเผยว่า สำนักงานใหญ่ของกลุ่มในกรุงลอนดอนซึ่งมีพนักงานราว 2,500 คน จำเป็นต้องปลดพนักงานออกกว่า 500 คน “เราจำเป็นต้องปรับโครงสร้างธุรกิจ ซึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เราต้องปิดทุกสาขา (550 สาขา) และสำนักงานใหญ่เป็นการชั่วคราวเป็นเวลายาวนานกว่า 3 เดือน” เซอร์ฟิลิป กรีน กล่าวเพิ่มเติมรายละเอียดว่า ขณะนี้เป็นเวลาที่เต็มไปด้วยความท้าทาย บริษัทจำเป็นต้องรีดคนออกเพื่อจะสามารถดำเนินการต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ  นอกจากนี้ บริษัทยังขอเลื่อนการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเพื่อสงวนเงินสดไว้ใช้หมุนเวียนในธุรกิจอีกด้วย

 

ด้านบริษัท เอสเอสพี กรุ๊ป เจ้าของเชนร้านอาหารและคาเฟ่ “อัปเปอร์ ครัสท์” (Upper Crust) และคาเฟ่ ริทาสซา (Caffe Ritazza) ซึ่งตั้งอยู่ตามสนามบินและสถานีรถไฟในอังกฤษ ประกาศว่า บริษัทมีแผนปลดพนักงานจำนวนรวม 5,000 คน จากพนักงานทั้งหมดที่มีอยู่ 9,000 คนในอังกฤษ ขณะที่บริษัท จอห์น ลิววิส ซึ่งก่อนหน้านี้ ให้พนักงานลาพักร้อนโดยไม่รับเงินเดือนจำนวนราว 14,000 คน ก็มีแผนปิดร้านสาขาและสำนักงาน ซึ่งคาดว่าจะให้รายละเอียดได้มากกว่านี้ในช่วงกลางเดือนก.ค.

“ท็อปช็อป-แฮร์รอดส์” ปลดระนาว 1,200 คนเซ่นพิษโควิด

“อาจจะมีบางสาขา หรือจำนวนราว ๆ 50 สาขาที่ต้องปิดเป็นการถาวร เนื่องจากขณะนี้จำนวนลูกค้าน้อยลงมากเมื่อเทียบสัดส่วนกับพื้นที่ให้บริการค้าปลีกที่เรามีอยู่” แถลงการณ์ที่ผู้บริหารของจอห์น ลิววิส แจ้งต่อพนักงานระบุ

 

ส่วนเดอะ เรสเทอรอง กรุ๊ป (ทีอาร์จี) ซึ่งเป็นเจ้าของเชนร้าน “แฟรงกี้ แอนด์ เบนนีส์” เมื่อเร็ว ๆนี้ ได้ประกาศจะปิดชั่วคราวร้านอาหารที่บริษัทดำเนินการอยู่ จำนวน 125 สาขา หลังจากที่เจ้าหนี้บริษัทประชุมลงมติให้ทีอาร์จีปรับโครงสร้างธุรกิจ ถ้าหากสถานการณ์เลวร้ายและบริษัทต้องปิด 125 สาขาดังกล่าวเป็นการชั่วคราว นั่นก็จะส่งผลกระทบต่อพนักงานราว 3,000 คน                                   

ข้อมูลอ้างอิง

 Harrods, Topshop, John Lewis to Lay Off Staff as COVID-19 Ebbs in U.K.

Coronavirus: Topshop owner and Harrods cut 1,200 jobs on grim day for retailers