หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 2 กรกฎาคม 2563
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 7.2 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 534 ล้านบาร์เรล เป็นผลมาจากการเพิ่มกำลังการผลิตของโรงกลั่นฯ ในสหรัฐฯ และการนำเข้าน้ำมันดิบจากซาอุดิอาระเบียที่ปรับตัวลดลง
+ ดัชนีกิจกรรมการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ในเดือน มิ.ย. 63 ปรับตัวขึ้นไปแตะระดับ 52.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี ตามสภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจากการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ในหลายประเทศ และเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความต้องการใช้น้ำมันที่เริ่มฟื้นตัว
- นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันยังคงอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ ยังมีคำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญของภาครัฐว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้ออาจปรับเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในอนาคตอันใกล้นี้
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้ในภูมิภาคยังอยู่ในระดับดี โดยเฉพาะในเวียดนามและเมียนมา
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์อ่อนแอในช่วงหน้าฝนและน้ำท่วมโดยเฉพาะประเทศจีน ท่ามกลางการส่งออกน้ำมันดีเซลในภูมิภาคที่ลดลง
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.ค.) ขานรับสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ร่วงลงกว่า 7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 39.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 42.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลอดไตรมาส 2 ปีนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นราว 92% ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นราว 81%