ดาวโจนส์ ปิดลบ 77.91 จุด ท่ามกลางความหวังวัคซีนต้านโควิด

01 ก.ค. 2563 | 23:49 น.

 ดาวโจนส์ปิดลบ 77.91 จุด นักลงทุนมองเฟดไม่ได้ให้รายละเอียดมากนัก เกี่ยวกับแนวทางการสื่อสารให้ตลาดรับรู้เรื่องสัญญาณชี้นำทิศทางนโยบายการเงิน ขณะที่ S&P500 และ Nasdaq บวกรับความหวังวัคซีนต้านโควิด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (1 ก.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนมิ.ย.ซึ่งนักลงทุนมองว่า เฟดไม่ได้ให้รายละเอียดมากนักเกี่ยวกับแนวทางการสื่อสารให้ตลาดรับรู้เรื่องสัญญาณชี้นำทิศทางนโยบายการเงิน (Forward Guidance) อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ ขานรับความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,734.97 จุด ลดลง 77.91 จุด หรือ -0.30% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,115.86 จุด เพิ่มขึ้น 15.57 จุด หรือ +0.50% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,154.63 จุด เพิ่มขึ้น 95.86 จุด หรือ +0.95%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนลบ หลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมเดือนมิ.ย.เมื่อวานนี้ ซึ่งใจความส่วนหนึ่งระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ควรสื่อสารให้ตลาดรับรู้ "สัญญาณชี้นำทิศทางนโยบายการเงิน (Forward Guidance) เกี่ยวกับการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ขณะที่กรรมการเฟดส่วนหนึ่งกล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องผลักดันให้มีการใช้เครื่องมืออื่นๆ ที่มีความเป็นไปได้ เช่น การควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (yield curve control) ซึ่งจะช่วยควบคุมอัตราดอกเบี้ยระยะยาว
          

รายงานการประชุมยังระบุด้วยว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่า มีโอกาสอย่างมากที่จะเกิดการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 และยังระบุว่า มีความเสี่ยงที่มาตรการการคลังในการให้ความช่วยเหลือภาคครัวเรือน ภาคธุรกิจ และรัฐบาลท้องถิ่น อาจจะไม่เพียงพอ

นักวิเคราะห์จากบริษัทแคปิตอล อิโคโนมิกส์กล่าวว่า รายงานการประชุมเดือนมิ.ย.ของเฟดไม่ได้บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการเงินในระยะใกล้ และยังแสดงให้เห็นว่า เฟดยังต้องใช้เวลาอีกนานในการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว

 

อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก หลังจากไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐเปิดเผยว่า ผลการทดลองใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในมนุษย์ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยไฟเซอร์ได้ดำเนินการทดลองดังกล่าวร่วมกับ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี และคาดว่าบริษัทจะสามารถผลิตวัคซีน 100 ล้านโดสภายในปลายปีนี้ และมากกว่า 1.2 พันล้านโดสภายในสิ้นปีหน้า

ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นไฟเซอร์ พุ่งขึ้น 3.21% และเป็นปัจจัยหนุนภาพรวมของตลาดให้ยังคงอยู่ในทิศทางบวก แม้ว่าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 43,644 รายก็ตาม

หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดตลาดดีดตัวขึ้น นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มสาธารณูปโภค พุ่งขึ้น 2.57% และ 2.29% ตามลำดับ ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 2.49%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.369 ล้านตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ขณะเดียวกัน ADP ได้ปรับตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนในเดือนพ.ค. โดยรายงานว่ามีการจ้างงานพุ่งขึ้น 3.065 ล้านตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่า การจ้างงานลดลง 2.76 ล้านตำแหน่ง