เมืองไทยส่งD Health” ประกันสุขภาพ

31 พ.ค. 2563 | 20:00 น.

เมืองไทยประกันชีวิตเปิดตัว D HEALTH ผลิตภัณฑ์ สัญญาเพิ่มเติมประกันภัยสุขภาพ แบบเหมาจ่าย ตั้งแต่ 1 ล้านบาทสูงสุด 5 ล้านบาท คุ้มครองถึง 99ปี นำร่อง 7 แผนทางเลือกหวังตอบโจทย์เป็นรายบุคคล +

ภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตเดือนเมษายนที่ผ่านมาเติบโตติดลบ 20%สะท้อนผลกระทบจากการแพร่ระบาดของCOVID-19  ธุรกิจประกันชีวิตต้องปรับแนวการทำตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทั้งให้น้ำหนักในการปรับตัวด้านเทคโนโลยี  ด้านระบบ รวมถึงบุคลากร หรือพอร์ตการลงทุนและแบบประกันที่ต้องตรงใจลูกค้าเป็นรายปัจเจกบุคคล 

เมืองไทยส่งD Health” ประกันสุขภาพ
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)ระบุว่า  ผลกระทบต่อภาคธุรกิจประกันชีวิตครั้งนี้ เห็นภาพชัดเจน  จากตัวเลขประมาณการเติบทางทางเศรษฐกิจไทย(จีดีพี)ติดลบ 8.1% ซึ่งหนักกว่าวิกฤติปี2540และเป็นทั้งโลก โดยจีดีพีโลกมีแนวโน้มจะติดลบ 5% ซึ่งตอนที่COVID เข้ามาแรงๆ  อัตตราผลตอบแทนหรือYield Curveจากการลงทุนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10ปีอยู่ในระดับต่ำกว่า 1% ซึ่งในชีวิตไม่เคยเจออย่างนี้  ขณะที่ประกันชีวิตต้องอิงกับพันธบัตรอายุ 10ปีเป็นหลัก   ฉะนั้น การขายกรมธรรม์ประกันชีวิต  จึงต้องเน้นความยั่งยืนระยะยาว และเสน่ห์ของการบริหารจัดการธุรกิจประกันชีวิตไม่ใช่ยอดขาย แต่คือ ความยั่งยืน ดังนั้น ตัวเลขเฉพาะเดือนเมษายนเบี้ยประกันรับทั้งระบบที่ติดลบ 20%จึงเป็นไปตามทิศทางของการขายแบบประกันที่ใช่
ในส่วนของเมืองไทยประกันชีวิต จึงเน้นกรมธรรม์ด้านความคุ้มครองและด้านสุขภาพ  ซึ่งตอบโจทย์องค์ประกอบข้างนอก ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยอัตราดอกเบี้ยหรือภาวะเศรษฐกิจ เพราะตอบโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพ  เหล่านี้ทำให้ตัวเลขติดลบน้อยลง  อย่างไรก็ตาม ธุรกิจประกันชีวิตนั้น โจทย์หลักคือ ความยั่งยืน เพราะฉะนั้นเมื่อแนวโน้มดอกเบี้ยหรืออัตราผลตอบแทนจากการลงทุนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10ปีอยู่ที่ประมาณ 1.2%ต่อปี ในส่วนของรูปแบบประกันจำเป็นต้องปรับให้สอดคล้องกับความเป็นจริง  จึงเป็นที่มาของเมืองไทยประกันชีวิต ประกาศเดินหน้าจุดยืน “MTL Everyday Life Partner” ในการเดินเคียงข้างในทุกช่วงของชีวิตโดยยึดหลักลูกค้าเป็นศูนย์กลาง พร้อมชูกลยุทธ์  New Normal Now “MTL” ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และช่องทางการขายที่หลากหลาย บนแพลตฟอร์ม Digital และ Non-digital มุ่งตอบโจทย์ความต้องการในทุกไลฟ์สไตล์และขจัด Pain Point ของลูกค้าอย่างตรงจุด

เมืองไทยส่งD Health” ประกันสุขภาพ

ล่าสุด “D  HEALTH” ผลิตภัณฑ์สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบเหมาจ่าย ตั้งแต่ 1ล้านบาท สูงสุด 5ล้านบาท ให้ความคุ้มครองถึงอายุ 99ปี โดยเฟสแรกจะให้บริการ  7แผนทางเลือกโดยให้เลือกความเสียหายส่วนแรกตั้งแต่ 3หมื่นบาทถึง 1แสนบาท ซึ่งตอบโจทย์ลูกค้าทั้งคนที่มีสวัสดิการและไม่มีสวัสดิการ หมดกังวลเรื่องค่าห้องที่อาจจะปรับเพิ่มในอนาคต   นอกจากจะได้รับความคุ้มครองแล้วเบี้ยประกันภัยยังสามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 25,000 บาท และเมื่อรวมกับการหักลดหย่อนค่าเบี้ยประกันชีวิต แล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท สำหรับผู้ที่ซื้อสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 365 (พ.ศ. 2563) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
     ในส่วนของการพัฒนาด้านบริการ สำหรับโลกยุค New Normal นั้น จะมุ่งเน้นสู่การเป็นดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ  พร้อมพัฒนาแอปพลิเคชัน “MTL Click” ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการด้านประกันชีวิตได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น การดูข้อมูลกรมธรรม์ การชำระเบี้ยประกัน การเคลม การค้นหาโรงพยาบาล การปรึกษาปัญหาสุขภาพออนไลน์ผ่านบริการ Telemedicine กับโรงพยาบาลสมิติเวช หรือการรับสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า เมืองไทยสไมล์คลับ ที่ได้คัดสรรกิจกรรมสุดพิเศษ พร้อมปรับรูปแบบให้เข้าวิถีใหม่ไว้อย่างครบครัน โดย 2เดือนที่ผ่านมาแอป MTL Click มียอดดาวน์โหลดกว่า 2.8แสนขึ้นไปซึ่งสะท้อนการใช้แพลตฟอร์มจริง 
ในส่วนของการให้บริการด้าน Telemedicine เมืองไทยประกันชีวิตได้เดินหน้ายกระดับบริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น  โดยความร่วมมือกับโรงพยาบาลสมิติเวช ได้เพิ่มอนุสาขาของแพทย์ (Specialist) ที่ให้การรักษาผ่าน Virtual Hospital เพิ่มอีก 53 สาขา เช่น อายุรกรรมต่อมไร้ท่อ หัวใจ สูตินารีเวช หู คอ จมูก อายุรศาสตร์ด้านการติดเชื้อแพทย์ผิวหนัง หอบหืดและภูมิแพ้ เป็นต้น โดยมีแพทย์อนุสาขาทั้งหมดกว่า 400 ท่าน ที่พร้อมให้คำปรึกษาและรักษาได้ทั้งคนไข้เก่าและใหม่  ซึ่งความคุ้มครองอย่างเต็มรูปแบบนี้ลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตสามารถเข้าถึงได้ผ่าน feature My Healthcare ในแอปปลิเคชัน MTL Click สำหรับลูกค้าประกันกลุ่ม และจะเปิดให้บริการสำหรับลูกค้าประกันเดี่ยวในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ นอกจากนี้เมืองไทยประกันชีวิตยังมีการขยายบริการ Telemedicine เฉพาะกิจไปยังโรงพยาบาลคู่สัญญาอีกถึง 48 แห่ง สำหรับผู้เอาประกันภัยซึ่งเป็นโรคเรื้อรังและเป็นผู้ป่วยเดิมที่มีประวัติการรักษาในโรงพยาบาล ที่มีนัดตรวจติดตามการรักษา เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก และลดความเสี่ยงจากการเดินทางออกจากบ้านให้แก่ผู้เอาประกันภัยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เริ่มให้บริการตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม 2563  และเตรียมที่จะขยายสู่ Telemedicine เต็มรูปแบบต่อไปในอนาคต
ในการพัฒนาด้านบริการเพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เมืองไทยประกันชีวิต ได้ร่วมพัฒนาระบบกับเครือโรงพยาบาลบางประกอก พัฒนานวัตกรรมระบบการเชื่อมโยงทางอิเล็กทรอนิกส์  Application Programming Interface หรือ API  ซึ่งระบบดังกล่าวจะช่วยยกระดับการให้บริการด้านการเคลมและเรียกร้องสินไหมให้มีความสะดวกรวดเร็ว  และสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้เอาประกันภัยที่ใช้บริการที่โรงพยาบาลเพียงบัตรประชาชนใบเดียว และข้อมูลที่ทำผ่านระบบนั้น อยู่ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ โดยปัจจุบันเริ่มให้บริการได้ที่เครือโรงพยาบาลบางประกอก 6 แห่ง  ได้แก่โรงพยาบาลบางประกอก 1  โรงพยาบาลบางประกอก 3 โรงพยาบาลบางประกอก 8 โรงพยาบาลบางประกอก 9 โรงพยาบาลบางประกอกรังสิต และโรงพยาบาลบางประกอก สมุทรปราการ  ซึ่งเริ่มให้บริการที่ผู้ป่วยนอกก่อน และกำลังพัฒนาเพื่อให้บริการในผู้ป่วยใน เป็นลำดับถัดไป รวมถึงมีแผนที่จะขยายไปในโรงพยาบาลคู่สัญญาแห่งอื่นๆ เพิ่มเติมอีกด้วย  นอกจากนี้ลูกค้าที่ดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน “MTL Click”  พร้อมลงทะเบียนและเพิ่มกรมธรรม์ที่มีอยู่แล้วให้เสร็จสมบูรณ์ จะได้รับสิทธิความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน – 15  สิงหาคม 2563  อีกด้วย

เมืองไทยส่งD Health” ประกันสุขภาพ

นอกจากนี้  เมืองไทยประกันชีวิตได้ร่วมกับโรงพยาบาลสมิติเวช มอบสิทธิพิเศษลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตและสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ สำหรับการซื้อหรือแลก “TytoCare” นวัตกรรมชุดอุปกรณ์ตรวจวัดสุขภาพเบื้องต้น ออกแบบมาให้ทุกคนสามารถใช้งานเองได้ที่บ้าน เพื่อส่งข้อมูลให้แก่คุณหมอที่ให้คำปรึกษาออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เชื่อมต่อการปรึกษาแพทย์ออนไลน์กับ Samitivej Virtual Hospital เหมือนหมอมาตรวจถึงบ้าน

บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าทำการตลาดแบบหลากหลายช่องทาง (Multi Distribution Channels) ไม่ว่าจะเป็นช่องทางตัวแทนประกันชีวิต ช่องทางธนาคาร โบรกเกอร์ รวมไปถึงการขายแบบประกันออนไลน์ ที่มุ่งขยายช่องทางการเข้าถึงลูกค้าผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆ รวมถึงมีการเสนอขายผ่านช่องทาง Digital Face to Face  เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่มีความสนใจในการทำประกันภัย ผ่านช่องทางการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย ด้วยการใช้เครื่องมือสื่อสารผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยข้อความ เสียง และ/หรือภาพ ระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 และยังเตรียมพัฒนาระบบและเครื่องมือสนับสนุนการขายให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนกระบวนการงานขายตั้งแต่กระบวนการก่อนการนำเสนอขาย ระหว่างการเสนอขาย และหลังการเสนอขาย เพื่อส่งมอบบริการด้านการวางแผนการเงินที่ดีและเหมาะสมกับลูกค้า ตอบโจทย์ทุกความต้องการได้อย่างครอบคลุมแบบ End to End Service