ธปท.เผยสินเชื่อซอฟท์โลนยอดอนุมัติ 90,499ล้านบาท ผู้ประกอบการได้รับ 56,312ราย ส่วนใหญ่เงินถึงมือเอสเอ็มอีรายเล็ก 76.4%รองลงมาเป็นรายกลาง 17.4%ด้านแบงก์ระบุการให้ความช่วยเหลือติดปัญหาลูกหนี้ไม่เข้าเงื่อนไขเป็นยอดหนี้คงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 -ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน -ธนาคารเรียกค่าธรรมเนียมเพิ่ม และเสนอวงเงินกู้ของธนาคาร หรือดึงบสย.ร่วมค้ำประกัน
ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)อยู่ระหว่างเตรียมทบทวนแนวทางปฎิบัติเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน หรือสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ(Soft Loan) เพื่อความคล่องตัวในการอำนวยสินเชื่อและเปิดให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงสินเชื่อดังกล่าวได้มากขึ้นและตรงจุด โดยคาดว่าการปรับปรุงกระบวนการปล่อยสินเชื่อซอฟท์โลน คงชัดเจนขึ้นภายในเดือนนี้นั้น
ทั้งนี้ เนื่องจากพบว่า สินเชื่อซอฟท์โลนมีอุปสรรคในการขอกู้จากธนาคารพาณิชย์ เช่น 1.ลูกหนี้เพิ่งเป็นลูกค้าใหม่ของธนาคารซึ่งไม่เข้าคุณสมบัติหรือเงื่อนไขที่กำหนดให้ต้องมียอดหนี้คงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 2.ลูกหนี้ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน 3.ความยุ่งยากในการจดจำนองหลักทรัพย์ค้ำประกัน 4.ธนาคารเรียกค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม 1-3% 5.ธนาคารพาณิชย์เข้มงวดในการปล่อยซอฟท์โลนและเสนอวงเงินกู้ประเภทอื่นแทน อาทิ เสนอวงเงินกู้ของธนาคารเอง หรือเสนอวงเงินกู้ของธนาคารโดยมีบสย.เข้ามาช่วยค้ำประกัน เป็นต้น
ส่วนความคืบหน้าสินเชื่อซอฟท์โลนที่ได้รับอนุมัติแล้วจากข้อมูล ธปท.เมื่อวันที่ 22มิถุนายน 2563 (เริ่มตั้งแต่วันที่ 23เมษายน 2563) มีจำนวนรวม 90,499 ล้านบาท โดยมีผู้ได้รับซอฟท์โลน 56,312 ราย คิดเป็นสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติเฉลี่ย 1.6 ล้านบาท/ราย โดยประกอบด้วย ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขนาดเล็ก ที่มีวงเงิน 0-20ล้านบาทได้รับอนุมัติวงเงิน 23,444ล้านบาท คิดเป็น 29.5% มีจำนวนผู้รับ 43,030รายหรือคิดเป็น 76.4% ,ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขนาดกลาง ที่มีวงเงิน 20-100ล้านบาท จำนวน 33,766ล้านบาท คิดเป็น 37.3%มีจำนวนผู้รับ 9,825รายคิดเป็น 17.4%และ เอสเอ็มอีขนาดใหญ่ที่มีวงเงิน 100-500ล้านบาทจำนวน 33,289ล้านบาท คิดเป็น 36.8%มีจำนวนผู้รับ 3,457รายคิดเป็น 6.1%
อนึ่ง พระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 พ.ศ. 2563ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทยให้เงินกู้ยืมเงินแก่สถาบันการเงินเป็นการเฉพาะคราวภายในวงเงินไม่เกิน 500,000ล้านบาท เพื่อให้สถาบันการเงินให้กู้ยืมเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) คิดดอกเบี้ยที่อัตรา 0.01%ต่อปีเพื่อเป็น สินเชื่อ soft loan วงเงินไม่เกิน 20% ของยอดสินเชื่อคงค้าง ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2562
สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีวงเงินสินเชื่อเพื่อธุรกิจ (O/D, working cap, term loan, trade finance) รวมทั้งกลุ่มธุรกิจกับสถาบันการเงินแต่ละแห่งไม่เกิน 500 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2562) อัตราดอกเบี้ย ไม่เกิน 2% ต่อปี นาน 2 ปี โดยคิดตามวงเงินที่เบิกใช้จริงฟรี ดอกเบี้ย 6 เดือนแรก โดยจ่ายคืนเฉพาะเงินต้นและฟรี ค่าธรรมเนียมทุกประเภท พร้อมทั้งรัฐบาลค้ำประกันสินเชื่อให้ 70% ในกรณีที่มีวงเงิน ณ 31 ธ.ค. 2562 ไม่เกิน 50 ล้านบาท หรือ 60% ในกรณีที่มีวงเงินเดิมเกิน 50 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม โครงการซอฟท์โลนดังกล่าวกำหนดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 23เมษายน-22ตุลาคม 2563
อย่างไรก็ตาม ในฟากของรัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง ในวันจันทร์ที่ 29มิถุนายน 2563 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กำหนดนัดหารือธปท. และธนาคารพาณิชย์เพื่อหารือเรื่องกองทุนเอสเอ็มอี วงเงิน 50,000ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่มีปัญหาเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน ณ ห้องวายุภักษ์ 1