“ปชป.” เตรียม 23 ขุนพลอภิปรายงบ 64

28 มิ.ย. 2563 | 03:59 น.

28 มิ.ย.2563 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จำนวน 3,300,000 ล้านบาทว่า ตนได้เชิญ ส.ส. ของพรรคฯ ประชุมในวันอังคารที่ 30 มิ.ย. เวลา 13.30 น. เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการประชุมในวันพุธที่ 1 ก.ค. นี้ โดยก่อนหน้านี้ มี ส.ส. จำนวน 23 คน สนใจอภิปรายงบประมาณปี 2564 ในแง่มุมต่างๆ ได้ประชุมปรึกษาหารือร่วมกันถึงกรอบและแนวทางการอภิปรายนำเสนอข้อมูลในที่ประชุมสภาบนพื้นฐานการอภิปรายที่มีเป้าหมายชัดเจนดังนี้

“ปชป.” เตรียม 23 ขุนพลอภิปรายงบ 64

1. การจัดงบประมาณควรเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน

2. การจัดสรรงบประมาณขับเคลื่อนประเทศควรเป็นไปตามนโยบายและแผนที่ได้ผ่านการกลั่นกรองมาอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ และสามารถดำเนินการภายใต้กลไกต่างๆของภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

3. เนื่องจากการพิจารณางบประมาณปี 2564 มีขึ้นหลังสถานการณ์โควิด-19 จึงควรให้ความสำคัญกับการฟื้นฟู บรรเทา และแก้ปัญหาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างมากขณะนี้

4. การจัดสรรงบประมาณควรเป็นไปเพื่อให้เกิดการฟื้นตัวและการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ยิ่งในสภาวะที่เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจากโควิด-19 ควรมีการอัดฉีดงบประมาณให้เศรษฐกิจเดินหน้าอย่างมีกลยุทธ

5. ควรจัดสรรงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากเพื่อช่วยเหลือคนส่วนใหญ่ของประเทศที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับการอัดฉีดเม็ดเงินผ่าน พ.ร.ก.ทั้ง 3 ฉบับ และ พ.ร.ก.โอนงบปี 63 ที่ผ่านสภาไปแล้ว

 

 

สำหรับแนวทางการอภิปรายในสภาของ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ จะเน้นอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ พร้อมทั้งจะชี้ให้เห็นว่าการจัดสรรงบประมาณเป็นไปอย่างถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ ควรมีการปรับปรุงอย่างไรเพื่อให้ตรงจุด คุ้มค่ากับการใช้จ่ายงบประมาณมากที่สุด จะมีการนำเสนอข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์บนพื้นฐานทางวิชาการ และข้อมูลบนสภาพความเป็นจริงของพื้นที่ต่างๆ ที่ ส.ส. หลายท่านมีประสบการณ์คลุกคลีอยู่กับประชาชนจนสามารถบอกได้ว่าจัดสรรงบประมาณอย่างไรจึงจะเกิดประโยชน์กับประชาชน

นอกจากนั้นพรรคประชาธิปัตย์ได้เตรียม ส.ส. จำนวน 6 คน เพื่อทำหน้าที่กรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 อย่างเต็มกำลังความสามารถเพื่อให้งบประมาณทุกบาททุกสตางค์ที่มาจากเงินภาษีอากรของประชาชนกลับไปทำประโยชน์ให้ประชาชน สังคม ประเทศชาติอย่างเต็มที่ต่อไป