สคร.ติดตามเบิกจ่ายรสก.ใกล้ชิด

26 มิ.ย. 2563 | 09:54 น.

สคร. ยันติดตามงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจอย่างใกล้ชิด ช่วยการฟื้นฟูเศรษฐกิจจาก COVID - 19 ด้านการเบิกจ่าย ณ พ.ค. พบรัฐวิสาหกิจ ยังเบิกจ่ายลงทุนได้ตามเป้า รวมเบิกจ่ายลงทุนสะสม 104,214 ล้านบาท

             นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า สคร. ได้ติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนในปี 2563 ของรัฐวิสาหกิจ 44 แห่ง ที่ สคร. กำกับดูแลอย่างใกล้ชิดซึ่งในภาพรวมรัฐวิสาหกิจยังสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดย ณ สิ้นเดือนพ.ค. 63 ผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมจำนวน 104,214 ล้านบาท หรือคิดเป็น 101% ของแผนการเบิกจ่ายสะสม รวมทั้งสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 62

             โดยรัฐวิสาหกิจที่มีงบลงทุนขนาดใหญ่และสามารถเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมายที่กำหนด ได้แก่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ  PTT และการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง

สคร.ติดตามเบิกจ่ายรสก.ใกล้ชิด

 

 

             ทั้งนี้ ผลการเบิกจ่ายสะสมของรัฐวิสาหกิจ ปี 2563 ณ สิ้นเดือนพ.ค. 63 โดยปีงบประมาณ (ต.ค. 62 – ก.ย. 63) จำนวนรัฐวิสาหกิจ 34 แห่ง เบิกจ่ายจริงสะสม 61,140 ล้านบาท หรือคิดเป็น 94% ของแผนการเบิกจ่ายสะสม ส่วนรัฐวิสาหกิจ ปีปฏิทิน (ม.ค. 63 – ธ.ค. 63) มี 10 แห่ง เบิกจ่ายจริงสะสม 43,073 ล้านบาท หรือคิดเป็น 114% ของแผนเบิกจ่ายสะสม

             นายประภาศ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อโครงการลงทุนบางโครงการที่ต้องใช้บุคลากรและการนำเข้าอุปกรณ์จากต่างประเทศ รวมทั้งผู้รับเหมาไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องปรับปรุงแผนการลงทุนให้สอดคล้องกับความเหมาะสมในการลงทุนและผลการดำเนินงานจริง

              อย่างไรก็ตาม การเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2563 รัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่ยังคงสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ตามเป้าหมาย ซึ่งเป็นผลมาจากการนำงานที่สามารถเบิกจ่ายได้มาทดแทนผลกระทบเหล่านี้ เช่น เงินเบิกจ่ายล่วงหน้าให้กับผู้รับจ้างหรือค่าทดแทนเพื่อชดเชยให้กับประชาชน ซึ่งจะเป็นการช่วยผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบและช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID – 19

              นางสาวปิยวรรณ ล่ามกิจจา รองผู้อำนวยการ สคร. รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สามารถเบิกจ่ายได้เกินกว่าเป้าหมาย เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ของ รฟม. นอกจากนี้ยังมีโครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าภาคตะวันตกและภาคใต้ เพื่อสร้างความมั่นคงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และงานก่อสร้างปรับปรุงขยายระบบท่อส่งน้ำของการประปาส่วนภูมิภาค สำหรับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่เบิกจ่ายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย เช่น โครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ช่วงบางซื่อ – รังสิต (รถไฟชานเมืองสายสีแดง) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554 – 2560) ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) AOT ขณะที่โครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกตะวันตกของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นโครงการเดิมที่ดำเนินการล่าช้าต่อเนื่องมา