”ศักดิ์สยาม” ดันอีอีซี-แหลมฉบังเฟส 3 หนุนความเชื่อมั่นนักลงทุนญี่ปุ่น

25 มิ.ย. 2563 | 10:34 น.

”ศักดิ์สยาม” ยืนยัน รัฐเร่งเดินหน้าอีอีซี-แหลมฉบังเฟส 3 คาดแล้วเสร็จตามแผน หวังดึงความเชื่อมั่นนักลงทุนญี่ปุ่นต่อเนื่อง เตรียมปลดล็อคนักลงทุนเดินทางเข้าไทย

นายศักดิ์สยาม   ชิดชอบ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  เปิดเผยว่า ภายหลังการประชุมร่วมกับหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ โดยมีนายทาเคทานิ อัทสึชิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (Jetro) นายโชอิจิ โอกิวาร่า ในฐานะประธานผู้แทนหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ (JCC) ที่ประชุมมีการหารือถึงความเชื่อมั่นในการลงทุนของไทยในอนาคตหลังจากทางเจโทรและเจซีซีมีความกังวลด้านการลงทุนจากสถานการณ์โควิด-19  ทั้งนี้ได้ยืนยันว่า ปัจจุบันรัฐมีหลายโครงการที่เกิดเป็นรูปธรรม เช่น โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน  การลงนามสัญญาโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบิน คาดว่าดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2568 ซึ่งโครงการเหล่านี้จะช่วยสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ ขณะที่โครงการท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 อยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองราคากับเอกชน เนื่องจากที่ผ่านมาเอกชนที่ชนะการประมูลได้เสนอผลตอบแทนให้แก่รัฐต่ำกว่าราคากลางที่รัฐกำหนด คาดว่าจะลงนามสัญญาได้ภายในเดือน ส.ค.63 รวมถึงโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) M7 ช่วงพัทยา-มาบตาพุดที่เชื่อมต่อถึงสนามบินอู่ตะเภา ระยะทาง 7 กม. ขณะนี้กรมทางหลวง (ทล.) อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อของบประมาณจากคณะกรรมการนโยบายระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2568

ขณะเดียวกันพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ศึกษาการออกกฎหมายเพิ่มเติมอีก 4 เขตเศรษฐกิจ อาทิ ภาคเหนือ  ภาคตะวันตก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ซึ่งเป็นการออกกฎหมายที่มีลักษณะคล้ายกับกฏหมายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

“เราได้ฝากผู้ประกอบการทางเจโทรและเจซีซี ถึงการประสานงานกับทางรัฐบาลของญี่ปุ่นในการตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนเดินทางระหว่างประเทศ เพื่อลดค่าใช้จ่ายและลดระยะเวลา เนื่องจากปัจจุบันติดข้อกฎหมายของรัฐบาลญี่ปุ่นในกรณีผู้ที่เดินทางไม่ได้เป็นผู้ป่วยจะไม่สามารถตรวจได้   ที่ผ่านมาทางญี่ปุ่นถือเป็นประเทศแรกของโลกที่มีการเปิดประเทศเดินทางระหว่างกันโดยการจับคู่ประเทศที่มีการปลอดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งได้มีการวางมาตรการ หากผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ จะต้องมีการตรวจเชื้อทั้งประเทศต้นทางและประเทศปลายทางว่าไม่พบเชื้อไวรัสโควิด-19   ซึ่งไทยจะใช้แนวทางเดียวกัน”