ประธานาธิบดี“ทรัมป์”ขยายเวลาระงับการออกวีซ่าให้แรงงานต่างชาติ
วันนี้( 23 มิ.ย.63) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกาได้ขยายมาตรการ ระงับการออกกรีนการ์ดและวีซาบางประเภท ให้ ชาวต่างชาติที่จะเข้ามาทำงานในสหรัฐฯ ไปจนถึงสิ้นปีนี้
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การขยายมาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อแรงงานที่มีฝีมือขั้นสูงในอุตสาหกรรมไฮเทค และคนทำงานนอกภาคการเกษตร รวมไปถึงโครงการโอแปร์ (au pairs) หรือโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการทำงาน รวมไปถึงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง
ทำเนียบขาวระบุว่า การขยายมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อสร้างงานให้ชาวอเมริกันที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในขณะที่ผู้ที่เห็นค้านระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯกำลังใช้สถานการณ์โรคระบาดมาเป็นข้ออ้างในการคุมเข้มกฎหมายการเข้าเมือง
รัฐบาลสหรัฐฯเผยว่า การระงับการออกวีซาต่อไปจนถึงสิ้นปีนี้ จะส่งผลกระทบกับผู้คนราว 525,000 คน ในจำนวนนี้มีราว 170,000 คนที่รอรับกรีนการ์ด หรือสิทธิในการพำนักถาวรในสหรัฐ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ความขัดแย้งเริ่มบานปลาย สหรัฐเล็งยกเลิกวีซ่านักศึกษาจีน
นอกจากนี้ คำสั่งดังกล่าวยังมีผลให้ต้อง ระงับการออกวีซ่า ดังต่อไปนี้ด้วย
H-1B วีซ่าสำหรับคนทำงานฝีมือขั้นสูง เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจากอินเดีย ซึ่งถูกมองว่า วีซ่าประเภทนี้ทำให้บริษัทต่าง ๆในซิลิคอน แวลลีย์ ไม่ยอมจ้างงานคนอเมริกัน แต่ไปจ้างคนอินเดียแทนเพราะค่าแรงต่ำกว่า ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา มีชาวต่างชาติยื่นขอวีซาประเภทนี้กว่า 225,000 ราย
H-2B วีซ่าสำหรับคนที่เข้ามาทำงานตามฤดูกาล เช่น ในอุตสาหกรรมโรงแรม แต่ยกเว้นให้คนที่เข้ามาทำงานในอุตสาหกรรมการเกษตร การแปรรูปอาหาร และสาธารณสุข
J-1 วีซ่าสำหรับโครงการแลกเปลี่ยนระยะสั้น สำหรับนักศึกษาและชาวต่างชาติที่มาทำงานเลี้ยงเด็กในโครงการโอแปร์ แต่จะมีข้อยกเว้นให้บางประเภท
L visas วีซ่าสำหรับตำแหน่งระดับผู้จัดการและตำแหน่งสำคัญในบริษัทข้ามชาติ
ผู้อำนวยการของศูนย์การศึกษาคนเข้าเมืองสหรัฐฯ ซึ่งเห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าวระบุว่า นี่เป็นความเคลื่อนไหวที่หนักแน่นของรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ ในการปกป้องตำแหน่งงานให้คนอเมริกันก่อน
อย่างไรก็ตาม สหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน ระบุว่า นี่เป็นการใช้ประโยชน์ในทางที่ผิดจากสถานการณ์โรคระบาดเพื่อถือโอกาสปรับเปลี่ยนกฎหมายคนเข้าเมือง
นอกจากนี้ ภาคธุรกิจเอกชนหลายรายของสหรัฐยังไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าวนี้ โดยเฉพาะธุรกิจที่พึ่งพาแรงงานต่างชาติ โดยมองว่าเมื่อเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว ภาคธุรกิจสหรัฐฯต้องการความมั่นใจว่า พวกเขาจะมีแรงงานที่จำเป็นเพียงพอและเป็นเรื่องสำคัญที่ภาคธุรกิจควรจะสามารถเข้าถึงบุคลากรทั้งในประเทศและจากต่างประเทศทั่วโลก
ข้อมูลอ้างอิง
Trump executive order extends a ban on employment-based visas through 2020