"บิ๊กตู่" ลั่นยังไม่ปรับครม. “พูดไปแล้ว หูตึงหรือไง"

22 มิ.ย. 2563 | 10:52 น.

นายกฯ ยืนยันยังไม่ปรับครม. ลั่น “พูดไปแล้ว หูตึงหรือไง" พร้อมระบุเรื่องการเมืองไม่ได้ทำให้เสียสมาธิในการทำงาน ส่วนการตั้ง"พล.อ.ประวิตร"เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเป็นเรื่องภายในพรรคไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ประกาศเดินหน้า รวมไทยสร้างชาติ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีกลาโหม ยืนยันขณะนี้ยังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตจะไม่มีการปรับ พร้อมย้ำว่า ไม่มีใครสามารถต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีได้ และยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ความคิดที่จะเข้าไปเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง

เมื่อสื่อมวลชนขอให้นายกรัฐมนตรีถอดหน้ากากผ้าและพูดยืนยันให้ชัดเจนว่า ยังไม่ปรับ ครม.เพื่อยุติกระแสข่าวนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "พูดไปแล้ว หูตึงหรือไง"

ส่วนความเปลี่ยนแปลงของฝ่ายการเมืองเป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหารในแต่ละพรรค ซึ่งการคัดเลือกตัวแทนพรรคมาเป็นรัฐมนตรีจึงนำมาเกี่ยวข้องกันไม่ได้ พร้อมกับย้ำว่าเคารพในสัดส่วนของพรรค แต่บางส่วนตนเองจำเป็นต้องบริหารเอง อย่านำเรื่องนี้มากดดันกัน หากวันนี้นำทุกอย่างที่แต่ละคนเสนอเข้ามาก็มีสัดส่วนรัฐมนตรีเกินกว่ากำหนดแล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องการเมืองไม่ได้ทำให้เสียสมาธิในการทำงาน เพราะได้รับกำลังใจจากประชาชน อีกทั้งนักการเมืองหลายคนก็ดีกับตนเอง และให้ความร่วมมือในการทำงาน เพราะทุกอย่างต่างคนก็ต้องรับฟังซึ่งกันและกัน ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรคนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร มีกำลังใจดีอยู่แล้ว แม้ว่าจะไม่เคยพูดว่าอยากเป็นหัวหน้าพรรค แต่หากมีความจำเป็นต้องทำหน้าที่นี้ก็จะทำอย่างดีที่สุด

ส่วนที่มีข่าวว่า พล.อ.ประวิตร จะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคแค่ 6 เดือน เพื่อแก้ปัญหาการแบ่งกลุ่มพรรคพลังประชารัฐนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องในพรรคที่ต้องแก้ปัญหา และเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของหัวหน้าพรรคที่ต้องทำเพื่อไม่ให้มีการแบ่งกลุ่มแบ่งพวก เพื่ออำนาจการต่อรอง เพราะใครจะเป็นตำแหน่งไหนก็ต้องเป็นเรื่องที่พรรคเสนอมา

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงรูปแบบการทำงานในวิถีใหม่ของรัฐบาลว่า การเปิดให้ทุกคนมีส่วนร่วมแบบรวมไทยสร้างชาตินั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ New Normal ก็คือ สุขภาพ สาธารณสุข และความสุขของประชาชน ส่วนแนวคิดรวมไทยสร้างชาติคือทุกคนต้องทำงานร่วมกันผ่านการมีส่วนร่วม เพราะประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองกับรัฐบาลอยู่แล้วผ่านการเลือกตั้งให้ ส.ส.เข้ามาเป็นตัวแทนและมาเป็นรัฐบาล ขณะที่ขั้นตอนแผนงานต่างๆ ก็ถูกเสนอมาจากระดับพื้นที่ แต่หากจะมีคนทำให้เกิดปัญหาก็ถือเป็นเรื่องของบุคคล

ทั้งนี้ จะมีการแบ่งอำนาจการบริหารอย่างชัดเจนอยู่แล้ว เช่น การกระจายอำนาจให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งทั้งหมดล้วนมาจากการเลือกตั้ง ดังนั้นหากกลไกลทั้งหมดนี้ ทำงานอย่างเต็มที่มีประสิทธิภาพ ไม่ทุจริต ก็จะเป็นแนวทางไทยสร้างชาติอยู่แล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้ให้รัฐมนตรีทุกคนนำแนวทางไปขับเคลื่อนต่อยอด พร้อมย้ำว่า รัฐบาลมีแนวทางการบริหารราชการแผ่นดินแนวใหม่ไว้อยู่แล้ว หากเข้าไปค้นในโซเซียลมีเดียก็จะพบว่ามีแผนดังกล่าวว่ารัฐบาลชุดที่แล้ว มีแผนตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งครอบคลุมทั้งในเรื่องของการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม การบริหารราชการแบบแนวนอน ดังนั้นขอให้ทุกฝ่ายไปทำความเข้าใจในเรื่องเหล่านี้เพื่อจะได้ต่อยอด และขยายแล้วทางไปให้ทั่วถึงกับประชาชน โดยย้ำว่าทุกอย่างมีแนวทางอยู่แล้ว ขอเพียงว่า อย่าทำนอกระบบ อย่าทำให้เกิดการทุจริต

พล.อประยุทธ์ ยังกล่าวด้วยว่า ได้รับความร่วมมือจากฝ่ายการเมืองเป็นอย่างดี เพราะไม่ต้องการการทุจริต ไม่ต้องการผลประโยชน์ ต้องการรักษากฏหมาย ส่วนที่ระบุว่าขอให้ก้าวผ่านเกมการเมือง หมายความว่า ทำอย่างไร การเมืองกับการบริหารราชการแผ่นดินจะไม่ถูกนำมาเกี่ยวพันกันมากนัก เพราะการบริการราชการแผ่นดินคือกลไกที่ได้มาซึ่ง ส.ส. การตั้ง ครม. การทำงานของรัฐบาล แล้วเดินหน้าทำงานตามยุทธศาสตร์ชาติ ตามนโยบายทั้ง 12 ประการ ให้มีประสิทธิภาพ ไม่ทุจริต