เชลล์-ไอบีเอ็มนำดิจิทัลหนุนอุตฯเหมืองแร่

19 มิ.ย. 2563 | 10:15 น.

เชลล์และไอบีเอ็ม เปิดตัวโอเร็น (Oren) แพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสระดับโลกที่รวบรวมบริการเหมืองแร่ดิจิทัลสำหรับธุรกิจแบบ B2B ที่กลุ่มบริษัทต่างๆ ร่วมพัฒนาขึ้น ภายใต้เป้าหมายในการช่วยให้บริษัทเหมืองแร่มีโซลูชันเกี่ยวกับความปลอดภัย การจัดการอย่างยั่งยืน การวางแผนการขุดเจาะ และการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยแพลตฟอร์มโอเร็นที่รวมเทคโนโลยีและโซลูชันใหม่เข้าไว้ในที่เดียวนี้ จะช่วยเร่งให้เกิดการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ เร่งให้เกิดการพลิกโฉมเวิร์คโฟลว์งานเหมืองแร่ และช่วยสร้างการดำเนินการที่มีความยืดหยุ่นฟื้นตัวได้เร็ว โดยเฉพาะในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน

เชลล์-ไอบีเอ็มนำดิจิทัลหนุนอุตฯเหมืองแร่

หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกในทุกวันนี้ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจตามปกติต้องหยุดชะงัก เช่นเดียวกับบริษัทเหมืองแร่ที่กำลังพยายามเพิ่มความคล่องตัวและความยืดหยุ่นฟื้นตัวได้เร็ว โดยการนำโซลูชันเหมืองแร่ที่มีความอัตโนมัติมากขึ้นเข้ามาใช้ในการดำเนินงาน เช่น รถบรรทุกพ่วงขับเคลื่อนเอง หรือศูนย์ปฏิบัติการจากระยะไกล เป็นต้น ซึ่งการจะทำสิ่งเหล่านี้ได้นั้น จำเป็นต้องปรับงานปฏิบัติการต่างๆ ของเหมืองแร่ให้เป็นดิจิทัลและผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะลงในทุกขั้นตอน ทั้งที่เหมืองเองและที่เครือข่ายแวลูเชนในวงที่กว้างขึ้น

ในฐานะซัพพลายเออร์หลักของน้ำมันหล่อลื่นของอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ที่ได้ทำงานร่วมกับธุรกิจเหมืองแร่กว่า 350 ราย เชลล์พบว่าร้อยละ 80 ขององค์กรที่ทำการสำรวจกำลังเผชิญกับความท้าทายในแง่การปฏิบัติการในลักษณะคล้ายๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น ความยากในการรวมรวมข้อมูลเพื่อประมวลออกมาเป็นมุมมองเชิงลึก การขาดเวิร์คโฟลว์อัจฉริยะอันเนื่องมาจากการทำงานแบบต่างฝ่ายต่างทำ การพัฒนาให้เกิดการจัดการอย่างยั่งยืน รวมถึงการช่วยให้บุคลากรมีความปลอดภัยในขณะใช้งานเทคโนโลยีที่ทำงานด้วยตัวเอง

“กลุ่มลูกค้าเหมืองแร่จะสามารถได้รับประโยชน์จากโซลูชันดิจิทัลมากมายที่ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นโซลูชันที่ช่วยบริหารจัดการการดำเนินงานในพื้นที่ห่างไกลให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เรามองว่าโอเร็นจะเป็นจุดหมายแบบ one-stop สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ให้สามารถเข้าถึงโซลูชันและเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ไม่เพียงแต่จากเชลล์และไอบีเอ็ม แต่รวมถึงองค์กรชั้นนำต่างๆ ด้วย ความสามารถในการเข้าถึงโซลูชันที่ดีที่สุดจำนวนมากได้ ถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะภายใต้ข้อจำกัดที่นานาประเทศต้องเจอในปัจจุบันอันเนื่องมาจากโควิด-19” แครอล เฉิน รองประธานงานการตลาดน้ำมันหล่อลื่นทั่วโลกของเชลล์ กล่าว

“ก้าวต่อไปของเหมืองแร่จำเป็นต้องอาศัยแพลตฟอร์มเทคโนโลยีแบบใหม่ที่ครอบคลุมอุตสาหกรรมในวงกว้าง ซึ่งจำเป็นต้องมีการเปิดกว้าง มีนวัตกรรม และการร่วมมือกันมากขึ้น โอเร็นจะช่วยเร่งให้เกิดการนำบริการดิจิทัลมาใช้ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ผ่านการถ่ายทอดเทคโนโลยี นวัตกรรม และการรวบรวมผู้ให้บริการโซลูชันทั่วทั้งอีโคซิสเต็ม สำหรับผู้ที่ทำงานที่เหมือง แพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้สามารถค้นหาโซลูชันที่เหมาะกับงานทุกระดับในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้เวิร์คโฟลวที่มีอยู่มีความอัจฉริยะขึ้น ช่วยผลักดันเส้นทางดิจิทัลและช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายในระยะยาว" แมตต์ แคนดี้ พาร์ทเนอร์บริหารธุรกิจทั่วโลก จาก IBM iX กล่าว

แพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสโอเร็นจะช่วยให้นักพัฒนาของทั้งองค์กรขนาดใหญ่และสตาร์ทอัพสามารถนำนวัตกรรมด้านเหมืองแร่ที่มีอยู่ในตลาดเข้าช่วยสนับสนุนลูกค้าเหมืองต่างๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

บริษัทเหมืองแร่อาจไม่มีเวลาและงบประมาณมากพอที่จะลงทุนพัฒนาเครื่องมือของตัวเองเพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้น และมองถึงการนำโซลูชันพร้อมใช้ที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วเข้ามาเสริมการปฏิบัติงาน ภายใต้การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆเพื่อสร้างมุมมองหนึ่งเดียว และกลั่นกรองข้อมูลออกมาเป็นมุมมองเชิงลึกที่สามารถสนับสนุนการทำงานและช่วยให้การตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลรอบด้านมากขึ้น

โอเร็นยังมองถึงการช่วยให้เหมืองแร่ต่างๆ สามารถพัฒนาโร้ดแม็ปการพัฒนาเหมืองแร่แห่งอนาคตที่มีความเชื่อมต่อกัน ด้วยโซลูชันที่เชื่อมโยงและใช้ประโยชน์จากข้อมูล เอไอ อินเตอร์เน็ตอ็อฟธิงส์ ออโตเมชัน และอนาไลติกส์ ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ทำงานที่เหมืองไม่เพียงแต่จะสามารถเข้าถึงบริการดิจิทัลต่างๆ แต่ยังสามารถต่อยอดพัฒนาเวิร์คโฟลวอัจฉริยะที่ผนวกรวมบริการต่างๆ จากอิโคซิสเต็มของเหมืองแร่

 

 

ทั้งนี้ ทีมงานโอเร็นจะนำการสนับสนุนโดยผู้เชี่ยวชาญเข้าช่วยบริษัทเหมืองแร่ในการสร้างโรดแมปดิจิทัล พร้อมด้วยมาร์เก็ตเพลส B2B ที่มีโซลูชันสำหรับการลงปฏิบัติงานจริง อาทิ

•             การค้นหาแบบเฉพาะเจาะจง ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาโซลูชันที่เหมาะสมที่สุด ผ่านการเลือกพารามิเตอร์ในการค้นหาให้ตรงกับลักษณะงานที่รับผิดชอบ ความท้าทายที่กำลังรับมือ หรือลักษณะของโซลูชันทางเทคนิคที่กำลังมองหา

•             การเข้าถึงโซลูชันเหมืองแร่ภาคสนามที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้ว เช่น MachineMax ซึ่งเป็นบริการดิจิทัลบนคลาวด์สำหรับการ optimize ยานพาหนะและกลุ่มรถอุตสาหกรรม Shell Remote Sense ซึ่งเป็นบริการเฝ้าระวังสถานะน้ำมันหล่อลื่นอัจฉริยะที่ช่วยให้มุมมองเชิงลึกแก่องค์กรอุตสาหกรรมเพื่อการปรับปรุงการทำงานของอุปกรณ์ การลดค่าบำรุงรักษา และการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้น รวมถึง IBM's Maintenance ซึ่งเป็นบริการที่ช่วยบริหารจัดการคลังชิ้นส่วนสำรองสำหรับการซ่อมแซมและปฏิบัติการ ทั้งชิ้นส่วนสำคัญและชิ้นส่วนทั่วไป

•             ซอฟต์แวร์ที่เน้นการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับต่างๆ ที่จะแสดงการวิเคราะห์แบบลงรายละเอียดและรายงานรายการสิ่งที่ก่อให้เกิดมลพิษ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้พลังงาน การประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การฟื้นฟูเหมือง และการประเมินวงจรชีวิตของเมือง โดยคาดว่าหนึ่งในสามของโซลูชันที่เปิดให้บริการบนมาร์เก็ตเพลซจะเชื่อมโยงกับโซลูชันการจัดการอย่างยั่งยืนบนโอเร็นที่มาจากทั้งองค์กรขนาดใหญ่และสตาร์ทอัพ  เช่น Hydrox Holdings ที่พัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยปลดล็อคการผลิตไฮโดรเจนในราคาถูก เพื่อเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียน

•             เปิดให้กลุ่มผู้ใช้ระยะแรกร่วมนำร่องเทคโนโลยีที่จะช่วยพลิกโฉมการดำเนินงานของเหมือง โดยโอเร็นจะช่วยดูแลให้บริษัทเหล่านี้เข้าทดลองโซลูชันใหม่ๆ และอินทิเกรตเข้ากับระบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น เทรนด์ที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมเหมืองแร่คือการพยายามควบคุมงานต่างๆ จากห้องควบคุม ซึ่งในที่นี้ BGC Engineering จะนำเสนอแพลตฟอร์ม Ada ที่แสดงภาพโฮโลกราฟิคของเหมืองผ่านประสบการณ์อินเตอร์แอคทิฟ 3D เสมือนจริง ให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเหมืองได้จากที่บ้าน ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญรวมถึงผู้มีส่วนได้เสียที่ไม่ได้มีความรู้เชิงเทคนิคสามารถดูงานที่ไซต์งานจริงได้ในแบบดิจิทัล ทั้งในแบบย้อนอดีต ปัจจุบัน และแบบอนาคต

•             คลังแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศของกรณีศึกษาเกี่ยวกับเหมืองที่เปิดให้ค้นหาได้ ที่จะแสดงแนวปฏิบัติที่เหมืองอื่นๆ ใช้ โดยเมื่อมีการใช้งานแพลตฟอร์มนี้เพิ่มขึ้น บริษัทเหมืองแร่จะสามารถดึงมุมมองเชิงลึกเกี่ยวกับเทรนด์เทคโนโลยีที่ใช้ในอุตสาหกรรมและเห็นภาพชัดขึ้นว่ามีการมุ่งเน้นการลงทุนไปที่ด้านใด สำหรับผู้บริการหรือตัวแทนขายก็จะได้รับมุมมองเชิงลึกเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือนวัตกรรมที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าและผู้ใช้งานมากขึ้น