นายชูชาติกล่าวว่า ต้นทุนการบริหารของบริษัทสามารถทำได้ดี ทำให้สามารถรักษาระดับดอกเบี้ยไว้ต่ำกว่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศไว้อยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยของบริษัทคิดที่ 20-21 % (ธปท.ขอให้ลดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจาก 28% เหลือ 24%) ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้รับเงินกู้ซอฟท์โลนจากธนาคารออมสิน ซึ่งมีต้นทุนดอกเบี้ยอยู่ที่ 2% จึงทำให้สามารถลดดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ลงได้อีก 1 % โดยจะอยู่ที่ 19%
ส่วนต้นทุนการบริหารจัดการนายชูชาติอธิบายว่า แบ่งออกเป็นสามส่วน 1.ต้นทุนด้านการเงิน ที่ไปกู้มา 2.ต้นทุนด้านการกันสำรอง หรือ NPL 3.ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็จะขึ้นอยู่กับบริษัทว่ามีความสามรถในการบริหารจัดการ หรือมีเครดิตดีแค่ไหน
“การประชุมกับธนาคารแห่งประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา ยอมรับว่าเสียงแตก เพราะแต่ละบริษัทมีต้นทุนการบริหารจัดการที่แตกต่างกัน เห็นใจบางบริษัทที่มีต้นทุนสูง น่ายชูชาติกล่าว
ส่วนการเติบโตของบริษัทยังคงเป้าหมายเดิม จากไตรมาส 1-2 ที่วางไว้ เติบโต 20-25% ก็สามารถทำได้ตามเป้าหมาย ทั้งยอดปล่อยกู้ ยอดคงค้าง และความสามารถในการทำกำไร ซึ่งเดิมอัตราดอกเบี้ยของบริษัทก็ไม่ได้สูง และต่ำกว่าเกณฑ์ที่ธปท.กำหนดไว้อยู่แล้ว ดังนั้นในปีนี้ก็ยังคงเป้าหมายการเติบโตไว้เท่าเดิมที่ 20-25%
ก่อนหน้านี้รองโฆษกรัฐบาลได้เปิดเผยผ่านทางเฟสบุ๊กส่วนตัวว่าธนาคารแห่งประเทศไทยขอความร่วมมือให้แบงก์-นอนแบงก์ลดอัตราดอกเบี้ย และให้รอฟังการประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีการแถลงข่าวในวันจันทร์ที่ 22 มิถุนายนนี้