โควิด-19 ปลุกภาคธุรกิจตื่นตัว เร่งเครื่องพัฒนาความยั่งยืน

17 มิ.ย. 2563 | 07:32 น.

"ศุภชัย" แสดงวิสัยทัศน์ ในเวที UN Global Compact Virtual Leaders Summit 2020 ชี้ โควิด-19 ปลุกภาคธุรกิจตื่นตัว เร่งเครื่องพัฒนาความยั่งยืน และการทำงานร่วมกันขององค์กรภาคเอกชน หรือ"ความร่วมมือแบบประชารัฐ" คือกุญแจสำคัญสู่ความยั่งยืน

"ศุภชัย เจียรวนนท์" ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อ “การทบทวนความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นพร้อมปูทางสู่การฟื้นตัว” (Reflections on Change & Roadmaps to Recovery) ย้ำว่า การทำงานร่วมกันขององค์กรภาคเอกชน คือ กุญแจดอกสำคัญสู่อนาคตที่ยั่งยืน และการพัฒนาผู้นำที่มีจิตสำนึกด้านความยั่งยืน จะเป็นรากฐานสำคัญและช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมได้ในที่สุด

เปิดฉากงานสัมมนาเรียลลิตี้ต่อเนื่อง 26 ชั่วโมง บนเวทีผู้นำด้านความยั่งยืนระดับโลก “UN Global Compact Virtual Leaders Summit 2020” รวบรวมสุดยอดผู้นำระดับโลกกว่า 200 ท่าน ร่วมแบ่งปันวิสัยทัศน์ และมุมมองธุรกิจ บนรากฐานของความยั่งยืนให้ฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งจากวิกฤติโควิด-19 ภายใต้แนวคิด “Recover Better, Recover Stronger, Recover Together” โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 15,000 คน จาก 193 ประเทศทั่วโลก

โควิด-19 ปลุกภาคธุรกิจตื่นตัว เร่งเครื่องพัฒนาความยั่งยืน

สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย เครือข่ายท้องถิ่นของ United Nations Global Compact ซึ่งเป็นเครือข่ายการพัฒนาที่ยั่งยืนของภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในโลก นำองค์กรสมาชิกในประเทศไทย ประกอบด้วยบริษัทองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และสถาบันการศึกษาชั้นนำ เข้าร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาด้านความยั่งยืนบนเวทีสัมมนาระดับโลก “UN Global Compact Virtual Leaders Summit 2020” ในโอกาสครบรอบ 20 ปี UN Global Compact โดยเป็นการประชุมครั้งสำคัญ ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนร่วมพูดคุยในประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้โลกไปด้วยกัน ถ่ายทอดไปทั่วโลกจากนครนิวยอร์ก ผ่านระบบออนไลน์ต่อเนื่องตลอด 26 ชม. ระหว่างวันที่ 15 – 16 มิ.ย. 2563 ซึ่งมีผู้สนใจด้านความยั่งยืนเข้าลงทะเบียนร่วมงานกว่า 15,000 คน ใน 193 ประเทศทั่วโลก

โควิด-19 ปลุกภาคธุรกิจตื่นตัว เร่งเครื่องพัฒนาความยั่งยืน

ในการสัมมนามีผู้นำการขับเคลื่อนความยั่งยืนระดับโลกทั้งจากสหประชาชาติและภาคธุรกิจเข้าร่วม  อาทิ อันโตนิโอกูร์เตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ บัน คี มูน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ อัล กอร์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯและผู้นำในการรณรงค์เพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พอล โพลแมน อดีตซีอีโอของยูนิลีเวอร์ และลิเซ่ คิงโก้ ซีอีโอและผู้อำนวยการบริหาร UN Global Compact

ที่ประชุมได้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ UN Global Compact ที่ได้ดำเนินงานมากว่า 20 ปี ที่จะฟื้นฟูโลกให้ดีขึ้นกว่าเดิมภายหลังจากวิกฤติโควิด-19 ในด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเพื่อบรรลุผลสำเร็จ

โควิด-19 ปลุกภาคธุรกิจตื่นตัว เร่งเครื่องพัฒนาความยั่งยืน

การขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs) 17 ข้อ ภายในปี 2573 หรือช่วงเวลาที่เลขาธิการสหประชาชาติเรียกว่า “ทศวรรษแห่งการลงมือทํา” โดยการย้ำความมุ่งมั่นขององค์กรธุรกิจ ในการบูรณาการทั้งหลักการ 10 ประการของ UN Global Compact และ SDGs มาปรับใช้ในกลยุทธ์ทางธุรกิจ ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน วัดผลได้ ตลอดจนร่วมมือกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในรูปแบบประชารัฐ

ในการเสวนาหัวข้อ “Reflections on Change & Roadmaps to Recovery” หรือ 

“การทบทวนความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นพร้อมปูทางสู่การฟื้นตัว” ซึ่งมี นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ และนายกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย คลาร่า อาภา อโซฟรา ซีอีโอแห่งARPA Equipos Móviles de Campaña จากสเปน คาร์มานี เรดดี้ นักพัฒนานวัตกรรมด้านความยั่งยืนของบริษัทDistell จากแอฟริกาใต้ และ

ฟิลลิป เจนนิงส์ อดีตเลขาธิการ UNI Global Union โดยมี เฟมิ โอคิ ผู้สื่อข่าวระดับนานาชาติ เป็นผู้ดำเนินการเสวนา

 

นายศุภชัย ชี้ให้เห็นว่า ปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีความรุนแรงกว่าวิกฤติโควิด-19 หลายเท่าอย่างไรก็ดี วิกฤติโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก สะท้อนให้เห็นว่า ประเด็นด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ของคนจะเป็นความท้าทายใหม่ของทุกคน “วิกฤตโควิด-19 ในครั้งนี้ ปลุกให้ภาคธุรกิจตื่นตัวและเร่งเครื่องสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน และเป็นโอกาสที่ดีในการผลักดันการปฏิรูปการเปลี่ยนแปลงใหม่ โดยต้องนำมาใช้เป็นกลยุทธ์ธุรกิจและดำเนินงานอย่างรวดเร็ว เพื่อให้เท่าทันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น 

 

"ในฐานะผู้นำองค์กร สิ่งที่ผมให้ความสำคัญในการบริหารงานในช่วงโควิดที่ผ่านมา คือ การดูแลพนักงาน โดยเน้นความมั่นคงในการทำงานด้วยการไม่ปลดพนักงาน การปรับทักษะในการทำงาน และสร้างงานใหม่ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ อาทิ อีคอมเมิร์ซ การให้ความรู้และสร้างความตระหนัก ส่งเสริมความโปร่งใส ผ่านการจัดทำรายงานผลการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านกลไกที่มีอยู่ อาทิ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เช่นเดียวกับที่บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลเรื่องบรรษัทภิบาล"

 

ผู้นำในวันนี้ ต้องนำการเปลี่ยนแปลง (Change agent) และมีจิตสำนึก (Mindset) ด้านความยั่งยืน เป็นตัวอย่างที่ดี มีวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ และที่สำคัญ คือ ควรเห็นความสำคัญของการร่วมมือ เพราะเราไม่สามารถก่อให้เกิดความยั่งยืนเพียงลำพัง จำเป็นต้องอาศัยการสร้างพันธมิตร 

โควิด-19 ปลุกภาคธุรกิจตื่นตัว เร่งเครื่องพัฒนาความยั่งยืน

ความร่วมมือแบบประชารัฐ (Public Private Partnership) จึงเป็นกุญแจดอกสำคัญสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ผู้นำองค์กรจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงผ่านกระบวนการทางธุรกิจ สินค้า บริการ เทคโนโลยี และนวัตกรรมขององค์กร โดยจะต้องลงมือทำอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม

นายศุภชัย ยังพูดถึงความสำคัญของนวัตกรรมว่า ความหมายที่แท้จริงของนวัตกรรม มิใช่เป็นเพียงเทคโนโลยี แต่ยังรวมถึงนวัตกรรมทางความคิด โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ จะต้องมีแนวคิดเรื่องความยั่งยืน ให้คุณค่ากับสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมไปกับการสร้างมูลค่าทางธุรกิจ

โควิด-19 ปลุกภาคธุรกิจตื่นตัว เร่งเครื่องพัฒนาความยั่งยืน

ทั้งนี้ การลงทุนที่มีศักยภาพและคุ้มค่าที่สุดเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน คือ การลงทุนด้านบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่แสดงความคิดสร้างสรรค์ สามารถช่วยต่อยอดเพิ่มมูลค่าแก่ธุรกิจได้อยู่ตลอดเวลา และจะต้องเข้าใจการสร้างคุณค่าให้สังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไปด้วย 

โควิด-19 ปลุกภาคธุรกิจตื่นตัว เร่งเครื่องพัฒนาความยั่งยืน

นอกจากนั้น เทคโนโลยีและนวัตกรรมจะช่วยเป็นทางออกของปัญหาด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และความท้าทายทางสังคมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโรคระบาด อาทิ โควิด-19 หรือในด้านการเกษตร รวมทั้งปัญหาภาวะโลกร้อนและปัญหาขยะ อีกทั้งยังสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าและสังคมว่าธุรกิจของเรายังคงเดินหน้าไปได้อย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่งช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างประโยชน์สู่ลูกหลาน