"คาร์โร"มั่นใจตลาดรถมือสองฟื้น

17 มิ.ย. 2563 | 02:00 น.

แพลตฟอร์มซื้อ - ขายรถมือสองออนไลน์ "คาร์โร"มั่นใจทิศทางตลาดฟื้น พร้อมกางแผน New Normal รับวิถีใหม่

ตลาดรถยนต์ในปีนี้ เหนื่อยหนัก ทั้งรถใหม่และรถมือสอง ส่งผลให้ผู้ประกอบการในธุรกิจทั้งระบบต้องปรับตัวเพื่อรับกับการแข่งขันด้วยกันเอง รวมไปถึงปรับตัวเพื่อรับกับพฤติกรรมใหม่ของลูกค้าในยุคปัจจุบัน


สำหรับในกลุ่มรถมือสอง ที่ปัจจุบันนอกจากจะขายผ่านช่องทางดั้งเดิมอย่างเต้นท์รถ โชว์รูมรถ แต่ตอนนี้ก็ปรับตัวด้วยการใช้ช่องทางดิจิทัล โซเซียลมีเดีย นอกจากนั้นแล้วก็จับมือกับแพลทฟอร์มการขายรถออนไลน์ ซึ่งถือเป็นตัวกลางที่มาช่วยขยายเข้าหากลุ่มเป้าหมาย โดยลักษณะของแพลทฟอร์มซื้อขายออนไลน์ที่ว่านั้น ในเมืองไทยมีอยู่ 2- 3 แบรนด์และเป็นกลุ่มสตาร์ทอัพ 


หนึ่งในสตาร์ทอัพที่บุกตลาดมากว่า 3 ปีคือ คาร์โร โดยนายมานิต โกการ์ ผู้จัดการสาขาประเทศไทย บริษัท คาร์โร (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดรถยนต์ใหม่ป้ายแดงในช่วงที่ผ่านมายอดขายลดลงติดต่อกัน ซึ่งอาจจะสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของลูกค้าที่ต้องประหยัดเงิน ตรงจุดนี้เองจะเป็นโอกาสของธุรกิจรถมือสอง ที่จะเข้าไปนำเสนอรถที่มีความคุ้มค่า คุ้มราคา


อย่างไรก็ตามด้วยปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้น ทั้งโควิด -19 ,ความเข้มงวดของสินเชื่อ,ความผันผวนของราคารถมือสองในตลาด ทำให้บริษัทต้องปรับตัวทั้งการทำงาน รวมไปถึงระบบภายในต่างๆ นอกจากนั้นแล้วก็ทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ ที่เป็นคู่ค้า ดีลเลอร์ต่างๆที่มีกว่า 5,000 ราย โดยจะช่วยเหลือกันทั้งเรื่องการขาย ,ไฟแนนซ์ ,การสต็อกสินค้า และคำแนะนำด้านอื่นๆเพื่อให้สามารถผ่านวิกฤติโควิด-19 นี้ให้ได้
 

 

นายมานิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังมองเห็นโอกาสของตลาดรถมือสอง ที่ยังมีความต้องการ ดังนั้นเมื่อภาครัฐประกาศผ่อนคลายล็อกดาวน์ หรือ คลายล็อกเฟส 4 บริษัทฯจึงเตรียมนำเสนอบริการรูปแบบใหม่ New Normal อาทิ การใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน “CARRO Wholesale” ที่มีจุดเด่นคือ“ความเร็ว ความโปร่งใส และ ราคาดี” สามารถทำให้ทั้งผู้ซื้อ-ผู้ขายรายใหญ่ทั่วประเทศสามารถเข้ามาขาย และประมูลรถได้พร้อมๆกันหลายร้อยเจ้า ในครั้งเดียว  โดยสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “CARRO Wholesale” ได้ทั้งที่ App store และ Play store

  "คาร์โร"มั่นใจตลาดรถมือสองฟื้น
"สภาวะเศรษฐกิจตอนนี้ ธุรกิจค้าขายรถมือสอง นับว่ามีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ อาจสืบเนื่องมาจากคนต้องการใช้เงินก้อนหรือต้องการเก็บเงินสดไว้กับตัว จึงทำให้เกิดความต้องการขายรถกันเป็นจำนวนมาก นับว่าภายใต้วิกฤตนี้ โอกาสยังคงเป็นของเราอยู่ และหลังจากสถานการณ์ต่างๆเริ่มผ่อนคลาย เราก็มั่นใจว่าการซื้อขายรถจะกลับมาคึกคัก "
 

นายมานิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ในครึ่งปีหลังน่าจะขยายฐานผู้ซื้อ - ผู้ขายเพิ่มขึ้นอีก 20 % ขณะที่ในปีที่ผ่านมาคาร์โร สามารถทำธุรกรรมการซื้อขายรถยนต์ทั้งหมดรวมมูลค่ากว่า 500 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท) จากจำนวนสาขาที่ให้บริการทั้งในสิงคโปร์  มาเลเซีย อินโดนีเซีย และประเทศไทย  ส่วนปี 2562 คาร์โรได้รับเงินสนับสนุนจากพันธมิตรเป็นมูลค่ากว่า 100 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ