เตือนผู้ประกอบการศึกษา กฎระเบียบส่งออกไปอียู

13 มิ.ย. 2563 | 03:40 น.

กรมการค้าต่างประเทศเผยสหภาพยุโรปปรับแก้ไขกฎระเบียบ โดยจำกัดค่าสารตกค้างของสารเคมีป้องกันเชื้อรา Prochloraz ในสินค้าเกษตรบางรายการ เตือนผู้ประกอบการไทยศึกษากฎระเบียบต่างๆ ให้ชัดเจน เพื่อลดผลกระทบต่อการส่งออกของไทย ก่อนมีผลบังคับใช้ 4 ก.ย.นี้

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สหภาพยุโรปได้ออก Regulation No. 2020/192 เพื่อแก้ไข Annex II และ Annex III ของ Regulation (EC) No 396/2005 ว่าด้วยการปรับแก้ไขค่าสารตกค้างของสาร Prochloraz ในสินค้าบางรายการ เนื่องจากเป็นสารเคมีที่ใช้ในการกำจัด/ป้องกันเชื้อราที่ลำต้น ใบ และรวงในธัญพืช รวมทั้งเชื้อราชนิด Fusarium spp. ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2563 เป็นต้นไป โดยรายการสินค้าที่ได้มีการปรับแก้ไขค่าปริมาณตกค้างสูงสุด (Maximum Residue Limits : MRLs) (mg/kg) ของสาร Prochloraz มีหลายรายการ ได้แก่1.จำกัดค่าสารตกค้าง Prochloraz ไม่เกิน 0.03 เช่น ผลไม้ตระกูลส้ม มะม่วง กล้วย สับปะรด ตระกูลถั่วเปลือกแข็ง ผลไม้ผลเดี่ยวที่มีเมล็ดแข็ง ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ อินทผาลัม มะเดื่อฝรั่ง มะกอกที่บริโภคสด มะเฟือง พลับ ลูกหว้า ผักรากและหัว พืชหัวแบบหอม ผักบริโภคผลตระกูลแตง ถั่วฝักสด เมล็ดงา เมล็ดมัสตาร์ด เมล็ดฟักทอง ข้าวบาร์เลย์ เป็นต้น

เตือนผู้ประกอบการศึกษา  กฎระเบียบส่งออกไปอียู

2. จำกัดค่าสารตกค้าง Prochloraz ไม่เกิน 7 (+) เช่น  ลิ้นจี่ พริกลีแพร์ (ลูกแพร์หนาม หรือกระบองเพชรมะเดื่อ) เสาวรส อโวคาโด ทับทิม เชอริโมยา (น้อยหน่าออสเตรเลีย) ฝรั่ง มะละกอ สาเก ทุเรียน เป็นต้น 3. จำกัดค่าสารตกค้าง Prochloraz ไม่เกิน 0.2 (+) เช่น ข้าวไรย์ ข้าวสาลี เป็นต้น4.จำกัดค่าสารตกค้าง Prochloraz ไม่เกิน 0.15 (+) เช่น เครื่องเทศกลุ่มเปลือกไม้ รากชะเอมเทศ ขิง ขมิ้น น้ำผึ้งและผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากผึ้ง เป็นต้น

ทั้งนี้จากข้อมูลสถิติการส่งออก ไทยมีมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรไปสหภาพยุโรป ช่วงปี 2560-2562 มีมูลค่า 49,080.5  44,641.6 และ 41,184.0 ล้านบาทตามลำดับ โดยล่าสุดในปี 2563 (ม.ค.-ก.พ.) มีมูลค่าการส่งออก 6,386 ล้านบาท ลดลง 6.84% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน