ผลศึกษาชี้ “ล็อกดาวน์” ช่วยหลายล้านชีวิตพ้นภัยโควิด

09 มิ.ย. 2563 | 23:07 น.

ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกมีมากกว่า 7 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 4 แสนคนในขณะนี้ รายงานการศึกษาของมหาวิทยาลัย Imperial College of London พบว่า มาตรการล็อกดาวน์ที่ใช้ใน 11 ประเทศซึ่งล้วนแต่อยู่ในทวีปยุโรป เช่น เบลเยียม อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และสเปน รวมทั้งการสั่งปิดธุรกิจที่ไม่สำคัญและโรงเรียนนั้น สามารถช่วยป้องกันไม่ให้มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ได้ถึง 3 ล้านราย

ผลศึกษาชี้ “ล็อกดาวน์” ช่วยหลายล้านชีวิตพ้นภัยโควิด

ส่วนรายงานอีกชิ้นหนึ่งซึ่งจัดทำในสหรัฐอเมริกา ก็พบว่า มาตรการล็อกดาวน์ซึ่งนำมาใช้ในประเทศจีน เกาหลีใต้ อิตาลี อิหร่าน ฝรั่งเศส และสหรัฐฯ ได้ช่วยป้องกันและชะลอการติดเชื้อโควิด-19 ของผู้คนได้ถึง 530 ล้านคนโดยประมาณ

 

สำนักข่าววอยซ์ ออฟ อเมริกา (วีโอเอ) รายงานว่า ขณะนี้สหรัฐเป็นประเทศที่มีจำนวนทั้งผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากที่สุดในโลก คือเสียชีวิตไปแล้วราว 113,000 คนจากจำนวนผู้ติดเชื้อกว่า 2 ล้านคน อย่างไรก็ตาม ในแง่อัตราการเสียชีวิตต่อประชากรแล้ว สหรัฐมาเป็นอันดับแปดของโลก รองจากหลายประเทศในทวีปยุโรป

 

ตัวเลขการติดเชื้อและการเสียชีวิตซึ่งสามารถป้องกันได้จากมาตรการล็อกดาวน์นี้ มีขึ้นขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในสหรัฐกำลังเรียกร้องให้ผู้ร่วมการประท้วงทั่วประเทศสวมหน้ากากป้องกันและไปรับการตรวจหาเชื้อโดยเร็ว

ผลศึกษาชี้ “ล็อกดาวน์” ช่วยหลายล้านชีวิตพ้นภัยโควิด

ส่วนที่นครนิวยอร์ก ในวันจันทร์ (8 มิ.ย.) ได้เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในระยะที่หนึ่ง ด้วยการอนุญาตให้ผู้คนราว 4 แสนคนกลับไปทำงานได้ และหลายคนจะกลับไปใช้ระบบรถไฟใต้ดินของมหานครนิวยอร์กเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ ๆ 3 เดือนด้วย

 

อย่างไรก็ตาม แม้คนงานก่อสร้าง คนทำงานในโรงงานการผลิต และในธุรกิจขายปลีกบางส่วน จะสามารถกลับไปทำงานได้ก็ตาม แต่ร้านอาหารหลายพันแห่งในนครนิวยอร์กยังคงต้องปิดตัวอยู่ต่อไปอย่างน้อยจนถึงสิ้นเดือนนี้

 

และถึงแม้ผู้บริหารของนครนิวยอร์กจะมีความมั่นใจมากพอเรื่องการกลับมาเปิดเศรษฐกิจบางส่วนก็ตาม แต่ที่รัฐฟลอริดา ทางใต้ของสหรัฐ กลับมีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นเกิน 1,000 คนต่อวัน ถึง 5 วันติดต่อกันแล้ว เนื่องจากผู้คนเริ่มไม่สนใจเกี่ยวกับมาตรการสร้างระยะห่างรวมทั้งจากการชุมนุมประท้วงในรัฐนี้ด้วย