รัฐบาลฮ่องกงอัดฉีด1.6แสนล.อุ้ม "คาเธ่ย์ แปซิฟิค"

09 มิ.ย. 2563 | 14:04 น.

รัฐบาลฮ่องกง มีแผนอัดฉีด 1.65 แสนล้านบาท อุ้ม "คาเธ่ย์ แปซิฟิค" ทั้งการเข้าถือหุ้น รวมถึงการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลกลายเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของสายการบิน

      South China Morning Post  รายงานว่า รัฐบาลฮ่องกง มีแผน ช่วยเหลือทางการเงิน แก่ สายการบิน  คาเธ่ย์ แปซิฟิค มูลค่าอาจมากถึง 40,000 ล้านเหรียญฮ่องกง หรือราว 165,000 ล้านบาท 
    โดยเม็ดเงินกว่า 30,000 ล้านเหรียญฮ่องกง เตรียมจะอัดฉีดตรงเข้าสู่สายการบิน ไม่ว่าจะเป็นการถือหุ้นของสายการบิน รวมไปถึงการปล่อยสินเชื่อ เพื่อช่วยให้สายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิค ผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากไปได้
     ความช่วยเหลือที่เกิดขึ้น รัฐบาลฮ่องกงได้ช่วยเหลือธุรกิจเอกชนเป็นครั้งแรก หลังจากที่สายการบินได้นำฝูงเครื่องบินส่วนใหญ่จอดไว้เนื่องจากวิกฤติโควิด-19 ส่งผลต่ออุตสาหกรรมการบินทั่วโลกในขณะนี้
   ทั้งนี้ คาเธ่ย์ แปซิฟิค ไม่ใช่แค่ผล กระทบจากโควิด-19 เท่านั้น แต่ในช่วงที่ผ่านมาสายการบินได้รับแรงกดดันจากจีนแผ่นดินใหญ่ กรณีที่พนักงานของสายการบินบางส่วนสนับสนุนผู้ชุมนุมในฮ่องกง ทำให้รัฐวิสาหกิจของจีนประกาศงดใช้สายการบินในการเดินทาง 

    รัฐบาลฮ่องกงอัดฉีด1.6แสนล.อุ้ม "คาเธ่ย์ แปซิฟิค"

   จุดประสงค์ในการช่วยเหลือ คาเธ่ย์ แปซิฟิค เพื่อทำให้ฮ่องกงเป็นหนึ่งในฮับการบินต่อไป ซึ่งสายการบินมีสล็อตการบินในสนามบินฮ่องกงมากถึง 50% และถ้าหากสายการบินล้มลงไปก็จะกระทบต่อสนามบินฮ่องกงซึ่งรัฐบาลเป็นเจ้าของด้วย
     ทั้งนี้ปัจจุบันสายการบินมีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ Swire Pacific ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ในฮ่องกง ถือหุ้น 45% และแอร์ ไชน่า  ถือหุ้น 30% และความช่วยเหลือทางการเงินที่จะเกิดขึ้น จะทำให้รัฐบาลฮ่องกงกลายเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิคทันที
    ขณะที่คาเธ่ย์ แปซิฟิค ประกาศว่า
รัฐบาลฮ่องกงจะอัดฉีดเงินเพื่อช่วยเสริมสภาพคล่อง แลกกับการจัดสรรหุ้นใหม่ของสายการบินให้กับบริษัทอาวิเอชั่น 2020 ที่ถือครองโดยรัฐบาลฮ่องกง
    โดยรัฐบาลฮ่องกงยังจะจัดเงินกู้
ระยะสั้นมูลค่า 7,800 ล้านดอลาร์ฮ่องกง หรือราว31,950 ล้านบาทให้กับคาเธ่ย์ แปซิฟิก อีกด้วย
    อย่างไรก็ตามก่อนหน้าที่จะเกิดวิกฤตการณ์ดังกล่าว คาเธ่ย์ แปซิฟิค เป็นหนึ่งในสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และเป็นสายการบินที่ทำการขนส่งสินค้ามากเป็นอันดับ 5 ของโลก
   ขณะที่ใน 4 เดือนแรกของปีนี้ คาเธ่ย์ แปซิฟิค  สูญเสียรายได้ไปแล้วถึง 580 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 18,171 ล้านบาท