ตร.บุกรวบ 2 พ่อลูกฮุบที่ดินธรณีสงฆ์3.8พันไร่

09 มิ.ย. 2563 | 04:16 น.

กองปราบบุกจับ“ลุงบุญช่วย-ลูกชาย”คดีฮุบที่ดินธรณีสงฆ์ 3,800 ไร่ คาบ้านพักจันทบุรี หลังเกิดเหตุ "พล.ต.ต."กราดยิงหน้าบัลลังก์ศาล คุมตัวเข้ากรุง

วันที่ 9 มิถุนายน 2563 เมื่อเวลา 06.00 น. มีรายงานว่า พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน จำนวน 20 นายและเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.2 บก.ป. พร้อมอาวุธครบมือ ได้นำหมายค้นจากศาลอาญาเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 32/21 ม.10 ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฎ จ.จันทบุรี เข้าจับกุม นายบุญช่วย เจริญสถาพร อายุ 80 ปี และ นายกิตติพงษ์ เจริญสถาพร อายุ 43 ปี บุตรชาย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “เบิกความเท็จต่อศาล ,ให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่,ร่วมกันยักยอกทรัพย์”

บ้านหลังดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับอาคารสำนักงานตั้งอยู่ภายในไร่ เจ้าหน้าที่วางกำลังปิดล้อมทั้งหมด รวมถึงปิดเส้นทางการหลบหนี ก่อนเข้าไปภายในบ้านพักพบผู้ต้องหาทั้งสองคน นอนพักผ่อนอยู่ในด้านใน เจ้าหน้าที่จึงเข้าแสดงตัวพร้อมกับเข้าตรวจค้นและยึดเอกสารหลักฐานบางอย่างจากภายในบ้านพักจำนวนหลายการไว้เป็นหลักฐาน

สำหรับการจับกุม ย้อนไปเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2561 มูลนิธิอธิธรรมมหาธาตุวิทยาลัยได้ส่งตัวแทนเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. เพื่อแจ้งความเอาผิดกับ นายบุญช่วย ซึ่งเป็นน้องชายของพระกิตติวุฑโฒ ภิกขุ อดีตประธานมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุ จากปัญหายักยอกที่ดินในพื้นที่ ต.พลวง ต.ตะเคียนทอง อ.เขาคิชณกูฎ และบางส่วนใน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ของมูลนิธิจำนวน 3,800 ไร่ ไปเป็นของตนเอง โดยสวมสิทธิการครอบครองและนำไปออกโฉนดโดยมิชอบ

หลังรับเรื่องร้องเรียนทางพนักงานสอบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยพบว่าที่ดินผืนนี้เป็นที่ดิน สปก. มีนายสมพล โกศลานันท์ เป็นผู้ครอบครอง กระทั่งประมาณปี 2513-2515 พระกิตติวุฒโฑ ได้มีการก่อตั้งมูลนิธิอธิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย และเปิดรับบริจาค รวบรวมเงินจากชาวบ้านมาเป็นทุนเพื่อซื้อที่ดินผืนดังกล่าวจากนายสมพล เพื่อนำมาใช้ปฏิบัติกิจกรรมต่างๆของพระสงฆ์ ในราคา 12 ล้านบาทแต่จ่ายเงินไปเพียง 8 ล้านบาท อีก 4 ล้านบาทยังไม่ได้ชำระ แต่ทาง นายสมพลได้มอบที่ดินให้ใช้ก่อน เพราะเห็นว่าไปใช้ประโยชน์ทางศาสนา

หลังจากได้ที่ดินมาแล้ว ทางพระกิตติวุฒโฑ ได้ให้ นายบุญช่วย น้องชายเป็นผู้ดูแลที่ดิน แต่เมื่อพระกิตติวุฒโฑมรณภาพลงในปี 2548 นายบุญช่วย และ ลูกชายได้เข้าครอบครองที่ดินมาเป็นของตนเอง เริ่มจากปี พ.ศ.2550 นายบุญช่วย ได้ยื่นเรื่องฟ้องร้อง นายเรวัฒิ โกศลานันท์ ลูกชายของ นายสมพล ในฐานะเป็นผู้รับมรดกเพื่อให้โอนที่ดินดังกล่าวมาเป็นของตัวเอง โดยมี นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ทนายความ เป็นทีมทนายความ กระทั่งศาลจังหวัดจันทบุรีมีคำพิพากษาให้ทายาทของ นายสมพล โอนที่ดินดังกล่าวไปเป็นชื่อของ นายบุญช่วย

                      ตร.บุกรวบ 2 พ่อลูกฮุบที่ดินธรณีสงฆ์3.8พันไร่    ตร.บุกรวบ 2 พ่อลูกฮุบที่ดินธรณีสงฆ์3.8พันไร่

 

ต่อมาทาง น.ส.เขมจิรา บัณฑูรนิพิท และ พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ ซึ่งเป็นทายาทรุ่นหลานของ นายสมพล ตรวจสอบเห็นความผิดปกติ และไม่พอใจเพราะเห็นว่าที่ดินดังกล่าวไม่ได้ถูกนำไปใช้ประโยชน์ทางศาสนาตามวัตถุประสงค์เดิม จึงดำเนินการฟ้องร้องหลายคดี จนทำให้เรื่องราวลุกลามบานปลาย เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2562 พล.ต.ต.ธารินทร์ ได้ใช้อาวุธปืนกราดยิงใส่นายบัญชา นางสุภาพร ภรรยานายบัญชา ,นายวิชัย อุดมธนภัทร และนายวิจัย สุขรมย์ ทีมทนาย ในศาลจังหวัดจันทบุรี ขณะกำลังรอพยานฝ่ายจำเลยและรอผู้พิพากษาขึ้นนั่งบัลลังก์นัดสืบพยานฝ่ายจำเลยนัดแรก เพื่อรับฟังการพิจารณาคดีการฟ้องร้องทางแพ่ง เกี่ยวกับที่ดินผืนดังกล่าว ทำให้นายบัญชา และ นายวิจัย เสียชีวิต ส่วนนางสุภาพร และ นายวิชัย ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ส่วนพล.ต.ต.ธารินทร์ หลังก่อเหตุได้ถูกนายธนากร ธีรวโรดม เสมียนทนายนำอาวุธปืนของร.ต.อ.ขจร บรรจง ตำรวจประจำศาลจังหวัดจันทบุรี ยิงใส่จนเสียชีวิตด้วยเช่นกัน โดยหลังจากที่ทางกองปราบปรามได้รับโอนสำนวนคดีทั้งหมดมาอยู่ในความดูแล พร้อมกับสืบสวนข้อเท็จจริงจนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานนำไปสู่การออกหมายจับและจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน

โดยภายหลังการจับกุมและตรวจค้นพยานหลักฐาน เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนเดินทางเข้ากองปราบปรามเพื่อทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง