นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) กล่าวถึงแสข่าว นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมการเมืองชาวไทย ที่อาศัยอยู่กัมพูชา ถูกอุ้มหายตัวไป และมีกระแสเรียกร้องจากองค์กรต่างๆ ให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ดำเนินการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในกรณีดังกล่าวว่า นอกจากกรณีนายวันเฉลิมแล้ว ยังมีกรณีกล่าวอ้างว่านักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวไทยที่ไปอาศัยอยู่ในต่างประเทศถูกบังคับให้สูญหายอีกหลายกรณี ได้แก่ กรณีนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ กับพวกอีกสองคน คือ นายชัชชาญ บุปผาวัลย์ และนายไกรเดช ลือเลิศ ได้หายตัวไปจากบ้านพัก ขณะที่อาศัยอยู่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
กรณีนายสยาม ธีรวุฒ กับพวกอีก 2 คน คือ นายชูชีพ ชีวะสุทธิ์ และ นายกฤษณะ ทัพไท ถูกจับกุมที่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และส่งตัวกลับมายังประเทศไทยแล้วไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด แต่กองบังคับการปราบปรามได้ยืนยันว่า ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่หน่วยงานใดทำการจับกุมตัว นายสยาม มาส่งมอบแก่พนักงานสอบสวน
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และได้รับแจ้งเป็นการภายในว่าไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางเข้ามายังสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ของนายสยามและพวกอีกสองคนแต่อย่างใด ในเรื่องนี้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้มีข้อเสนอแนะไปยังองค์กรที่เกี่ยวข้องแล้ว
ทั้งนี้กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิทธิและเสรีภาพของคนไทยในต่างประเทศ แต่เหตุการณ์ตามข้อกล่าวอ้างเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรไทย จึงไม่อยู่ในหน้าที่และอำนาจที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จะดำเนินการตรวจสอบได้ แต่สมควรดำเนินการโดยหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่และอำนาจโดยตรง ดังนั้น จึงได้ขอความร่วมมือให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาให้หน่วยงานในสังกัด ดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริง ข้อมูล หรือพยานหลักฐาน เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ และเผยแพร่ให้สาธารณชนทราบโดยทั่วกัน โดยกระทรวงการต่างประเทศอาจประสานกับครอบครัวของ นายวันเฉลิม ให้ส่งข้อมูล หรือพยานหลักฐานทั้งปวง ที่แสดงว่ามีการถูกบังคับให้สูญหายไปยังกระทรวงการต่างประเทศโดยตรง เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป
“ที่ผ่านมา กสม. มีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลในการตรากฎหมายป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ภายใต้เจตนารมณ์ที่สอดคล้องกับอนุสัญญาต่อต้านการทรมาน และการประติบัติหรือการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (CAT) ที่ประเทศไทยเป็นภาคี และอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ (ICPPED) ซึ่งประเทศไทยได้ให้ความเห็นชอบในหลักการแล้ว พร้อมทั้งขอให้คณะรัฐมนตรีเร่งเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ (ICPPED) ด้วย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันที่ชัดเจนในการคุ้มครองสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน”