นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่าจากสถานการณ์โควิด -19 ที่มีแนวโน้มคลี่คลายลงและหลายประเทศทั่วโลกได้มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้เมื่อสถานการณ์เอื้ออำนวยกรมพร้อมดำเนินการได้ทันทีเพื่อรักษาและขยายตลาดส่งออกโดยรวม เตรียมโครงการกว่า 250 โครงการ เช่น การส่งเสริมสินค้าไทยผ่านช่องทางออนไลน์ โมเดิร์นเทรด ห้างสรรพสินค้า ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก การยกระดับภาพลักษณ์สินค้าและธุรกิจบริการไทยในต่างประเทศ ภายใต้ตราสัญลักษณ์ Tmark, Demark, PM Award และ Thai Select รวมถึงการสร้างมาตรฐานด้านคุณภาพและความปลอดภัยให้กับสินค้าและบริการของไทย เช่น มาตรฐานด้านอาหาร ฮาลาล เกษตรอินทรีย์ การนำทัพผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศและการจัดงานแสดงสินค้าในไทย พร้อมจัดกิจกรรมให้คำปรึกษาและข้อมูลเพื่อบุกตลาดต่างประเทศกับทูตพาณิชย์ทั่วโลกผ่านกิจกรรม Online Export Clinic ในการบุกตลาดส่งออกทุกภูมิภาคทั่วโลก
นอกจากนี้กรมยังมีพันธมิตรทางการค้าในการสนับสนุนการจัดกิจกรรมของกรมและสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย มหาวิทยาลัยต่างๆ รวมทั้งพันธมิตรแพลตฟอร์มออนไลน์ในต่างประเทศ อาทิ Tmall, Alibaba (ตลาดจีน) Bigbasket (ตลาดอินเดีย) คลัง.com (ตลาดอาเซียน) และ Amazon (ตลาดอเมริกา)
ในส่วนกิจกรรมเจรจาธุรกิจผ่านระบบออนไลน์ (Online business Matching) ในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.ที่ผ่านมาได้ดำเนินการในหลายสินค้าและหลายตลาด อาทิ ตลาดเกาหลีใต้ ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา อียิปต์ ในกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าเครื่องใช้ภายในบ้านและสินค้าแฟชั่น สินค้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ ชิ้นส่วนยานยนต์ ถุงมือยาง เป็นต้น มีมูลค่าการซื้อขาย ประมาณ 636.48 ล้านบาท และมีกำหนดเจรจาในอีกหลายตลาดต่อเนื่องจนถึงเดือนก.ย. 2563 สำหรับการจัดอบรมสัมมนาผ่านช่องทางออนไลน์ (E-Learning & E-Academy) มีผู้เข้าร่วมอบรมกว่า 3,900 ราย รวมทั้งกรมยังจึงได้จัดทำวิดีโอ 14 ภาษา เพื่อประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมภาพลักษณ์อุตสาหกรรมอาหาร ทั้งด้านมาตรฐานความปลอดภัย การเป็นผู้ผลิตอาหารตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ในฐานะครัวของโลกเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั่วโลกอีกด้วย
ทั้งนี้ในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา กรมได้ทำกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่องและปรับรูปแบบการดำเนินงานโดยเน้นกิจกรรมออนไลน์มากขึ้นและมีผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ เช่น การจัดงานแสดงสินค้าในรูปแบบออนไลน์แบบเสมือนจริงสำหรับอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ ภายใต้ชื่องาน Multimedia Online Virtual Exhibition (M.O.V.E.) เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา มีการจับคู่ธุรกิจกิจกว่า 350 คู่ สร้างรายได้กว่า 1,800 ล้านบาท รวมทั้งงานสัมมนาและเวิร์คชอปออนไลน์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ครีเอเตอร์ไทยโดยผู้เชี่ยวชาญในวงการแอนิเมชันระดับสากล จาก Walt Disney Animation Studio, Nickelodeon Animation Studio และ Marvel Studio เป็นต้น