ฟิลิปปินส์เล็งขึ้นภาษีนำเข้า เพิ่มรายได้ 2.4 แสนล้านเปโซสู้โควิด

03 มิ.ย. 2563 | 11:26 น.

ฟิลิปปินส์เล็งขึ้นภาษีสินค้านำเข้า เพิ่มรายได้ 2.45 แสนล้านเปโซแก้ปัญหาโควิด หลังขึ้นภาษีน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปชั่วคราว 10 % นำร่อง ทูตพาณิชย์สั่งจับตากระทบส่งออกไทย ชี้อาจขัดความตกลงอาเซียน

รัฐบาลฟิลิปปินส์กำลังชั่งน้ำหนักในการพิจารณาเรื่องการขึ้นภาษีนำเข้า เพื่อสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล ในช่วงวิกฤติโควิด-19 คาดจะสามารถเพิ่มรายได้เข้าคลังมากถึง 2.45 แสนล้านเปโซ(ราว 156,800 ล้านบาท คำนวณที่ 0.64 บาทต่อเปโซ)

นาย Ceferino S. Rodolfo ปลัดกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงฯ กำลังพิจารณาทบทบทวนข้อเสนอในการขึ้นภาษีนำเข้าเพิ่มเติมร้อยละ 5 สำหรับสินค้านำเข้าทั้งหมดเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาล โดยคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ประมาณ 2.45 แสนล้านเปโซ ซึ่งประมาณการจากมูลค่าการนำเข้าเฉลี่ยในระหว่างปี 2559-2561

ทั้งนี้กระทรวงฯ จะทำการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบต่อต้นทุนของธุรกิจต่าง ๆ รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อต่อผู้บริโภคหลังจากที่ได้มีการประชุมคณะกรรมการด้านเทคนิคเกี่ยวกับภาษี อย่างไรก็ดี นาย Ceferino S. Rodolfo กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องใช้มาตรการดังกล่าว และการปรับขึ้นภาษีดังกล่าวไม่ใช่เพื่อการปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ เป็นเพียงข้อเสนอในการเพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาล โดยจะบังคับใช้กับสินค้านำเข้าทั้งหมด ไม่ได้เลือกปฏิบัติกับสินค้าใดเป็นการเฉพาะ (ยกเว้นสินค้าปิโตรเลียมที่มีการปรับเพิ่มภาษีนำเข้าชั่วคราวไปแล้วก่อนหน้านี้ )

 นอกจากนี้เมื่อนำข้อเสนอดังกล่าวไปหารือกับหน่วยงานอื่นๆ พบว่ายังมีความกังวลเกี่ยวกับ ผลกระทบกับข้อผูกพันภายใต้ข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรีของอาเซียนที่ประเทศสมาชิกมีภาระผูกพันที่จะต้องร่วมกันลดข้อจำกัดและอุปสรรคทางการค้า รวมทั้งการลดอัตราภาษีนำเข้าในภูมิภาคลงเหลือร้อยละ 0-5 ทำให้สามารถใช้อัตราภาษีสูงสุดได้เพียงร้อยละ 5 สำหรับสินค้าที่มาจากประเทศสมาชิกอาเซียน รวมทั้งข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ ในขณะที่กระทรวงฯ เห็นว่าการขึ้นภาษีนำเข้าเพิ่มเติมเพียงแค่ร้อยละ 5 จะไม่ส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภค อย่างไรก็ดีกระทรวงฯ จะทำการศึกษาผลกระทบต้นทุน-ประโยชน์ รวมทั้งข้อดี-ข้อเสียอย่างละเอียดต่อไป

ฟิลิปปินส์เล็งขึ้นภาษีนำเข้า เพิ่มรายได้ 2.4 แสนล้านเปโซสู้โควิด

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2563 ประธานาธิบดีได้ลงนามคำสั่ง Executive Order No.113 ประกาศ ขึ้นภาษีนำเข้าสำหรับน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปชั่วคราวร้อยละ 10 เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยกระทรวงพลังงาน คาดการณ์ว่าการขึ้นภาษีนำเข้าน้ำมันดังกล่าวจะช่วยเพิ่มรายได้รัฐประมาณ 6.78 พันล้านเปโซในปีนี้

 สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต.) ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ระบุว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้รัฐบาลฟิลิปปินส์จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลในการรับมือและเยียวยาผลกระทบต่อประชาชนและเสถียรภาพเศรษฐกิจของประเทศ โดยข้อมูลจาก Bureau of The Treasury ระบุว่าวิกฤติโควิด-19 ทำให้รัฐบาลขาดดุลงบประมาณใน 4 เดือนแรกของปี2563 ประมาณ 3. 479 แสนล้านเปโซ โดยเดือนเมษายน 2563 เพียงเดือนเดียวขาดดุลงบประมาณ 2.739 แสนล้านเปโซ โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ถึงร้อยละ 108.1 ในขณะที่รายรับลดลงร้อยละ 31.4 โดยรัฐบาลฟิลิปปินส์พยายามหาแหล่งเงินกู้ยืมทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งข้อเสนอในการปรับขึ้นภาษีนำเข้าจึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการเพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาล อย่างไรก็ดีท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาและถดถอยจากวิกฤติโควิด-19 ทำให้หลายประเทศได้รับผลกระทบ รวมทั้งประเทศฟิลิปปินส์

หากฟิลิปปินส์ตัดสินใจขึ้นภาษีนำเข้า คาดว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบและเสียประโยชน์จะกลับกลายเป็นประชาชนชาวฟิลิปปินส์และธุรกิจในประเทศเอง เนื่องจากผู้บริโภคต้องซื้อสินค้าในราคาที่แพงขึ้นโดยเฉพาะสินค้าขั้นสุดท้ายที่จำเป็น สำหรับการอุปโภคและบริโภคและจะส่งผลต่อเนื่องทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นด้วยในขณะที่ธุรกิจต้องแบกรับต้นทุนสินค้าที่เพิ่มขึ้น

ฟิลิปปินส์เล็งขึ้นภาษีนำเข้า เพิ่มรายได้ 2.4 แสนล้านเปโซสู้โควิด

หากฟิลิปปินส์ปรับขึ้นภาษีนำเข้า นับเป็นการเพิ่มแรงกดดันสำคัญและอาจเป็นปัจจัยลบเพิ่มเติมที่จะกระทบต่อภาพรวมการส่งออกสินค้าไทยในอนาคต โดยฟิลิปปินส์เป็นตลาดส่งออกหลักอันดับ 5 ของไทยในภูมิภาคอาเซียน ในปี 2562 มูลค่าการค้ารวมของไทยกับฟิลิปปินส์อยู่ที่ 10,143 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.10 ของการค้าไทยไปทั่วโลก โดยไทยส่งออกไปฟิลิปปินส์มีมูลค่า 6,919 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ไทยมีการนำเข้าจากฟิลิปปินส์ มูลค่า 3,224 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ผ่านมาไทยได้เปรียบดุลการค้าฟิลิปปินส์มาโดยตลอด

สำหรับช่วง 3 เดือนแรกของปี 2563 ไทยส่งออกไปฟิลิปปินส์มูลค่า 1,565 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 9.49 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สินค้า 5 อันดับที่ไทยส่งออกไปยังฟิลิปปินส์มากที่สุด ได้แก่ กลุ่มสินค้ารถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, แผงวงจรไฟฟ้า, เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ, เครื่องสำอาง สบู่และผลิตภัณฑ์รักษาผิว และผลิตภัณฑ์พลาสติก

สคต. ณ กรุงมะนิลา ชี้ว่า การพิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้าของรัฐบาลฟิลิปปินส์เป็นประเด็นที่ผู้ประกอบการไทยควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อหาแนวทางการรับมือได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ฟิลิปปินส์เป็นตลาดส่งออกสำคัญ เช่น กลุ่มสินค้ารถยนต์และส่วนประกอบ โดยไทยมีการส่งออกรถยนต์ไปตลาดฟิลิปปินส์มากเป็นอันดับ 2 มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 12 ของมูลค่าการส่งออกรถยนต์ทั้งหมดของไทย ดังนั้นหากมีการปรับขึ้นภาษีนำเข้าจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการส่งออกสินค้าดังกล่าวของไทย รวมทั้งสินค้าอื่นๆ นอกจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยต้องติดตาม และตรวจสอบว่านโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าดังกล่าวจะขัดต่อพันธกรณีความตกลงการค้าต่าง ๆ หรือไม่ อย่างไร