สักการะพระแสงราชศัสตราประจำเมืองนครศรีธรรมราช

03 มิ.ย. 2563 | 08:07 น.

      สักการะ"พระแสงราชศัตราประจำเมืองนครศรีธรรมราช" โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมผู้บังคับการตำรวจนครศรีฯ และรองผู้ว่าฯ ร่วมถวายมาลัยสักการะ  ที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อความเป็นสิริมงคล


  
วันนี้ (3 มิ.ย. 2563) นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช และรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ถวายมาลัยสักการะพระแสงราชศัสตราประจำเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งประดิษฐาน ณ ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช  เพื่อความเป็นสิริมงคล 
  สักการะพระแสงราชศัสตราประจำเมืองนครศรีธรรมราช    

ในเว็บไซต์ http://www.nakhoncity.org/img/museum/10062.pdf เผยแพร่เอกสาร  "ย้อนรอย ๑๐๐ ปี นครศรีธรรมราช" เรียบเรียงโดย "สมพุทธ ธุระเจน" ในโครงการศึกษาสืบค้นประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม พิพิธภัณฑ์เมืองนครศรีธรรมราช ของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช 2562  หัวข้อ "พระแสงราชศัสตราประจำเมืองนครศรีธรรมราช" ให้ข้อมูลว่า....
    

ธรรมเนียมการพระราชทานพระแสงราชศัสตราประจำเมืองนครศรีธรรมราช มีขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ เมื่อพุทธศักราช ๒๔๔๔ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ พระราชประสงค์หลักในการพระราชทานเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์แทนพระองค์ และเป็นเครื่องหมายแห่งพระราชอำนาจในการปกครองแผ่นดิน เมื่อใดที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมและประทับแรม ณ เมืองนั้นอีก ให้ผู้ว่าราชการเมืองทูลเกล้าฯ ถวายพระแสงราชศัสตราประจำเมืองคืนไว้ประจำพระองค์ ตราบจนเมื่อใดจะเสด็จพระราชดำเนินกลับจึงพระราชทานพระแสงราชศัสตราประจำเมืองคืนดังเดิม ธรรมเนียมโบราณประเพณีดังกล่าวนี้พระมหากษัตริย์ในรัชกาลต่อ ๆ มา ทรงปฏิบัติสืบต่อกันมา ดังปรากฏว่ามีมณฑล เมือง และจังหวัดได้รับพระราชทานพระแสงราชศัสตราประจำเมืองรวม ๓๒ เมือง
    

ลักษณะของพระแสงราชศัสตราประจำเมืองแต่ละองค์บ่งบอกถึงลำดับชั้นความสำคัญของเมือง เช่น เมืองสำคัญเป็นสถานที่ตั้งมณฑลเทศาภิบาล พระราชทานพระแสงด้ามทอง ฝักทองลงยาราชาวดี เมืองสามัญทั่วไป พระราชทานพระแสงด้ามทอง ฝักทอง
    

พระแสงราชศัสตราประจำเมืองทุกองค์ มีลักษณะเป็นดาบไทย ฝีมือช่างทองหลวง มีความประณีต งดงาม วิจิตรบรรจง สมเด็จเครื่องราชูปโภคที่พระราชทานไว้เป็นสัญลักษณ์แทนพระองค์ พระแสงราชศัสตราทุกองค์ตีจากเหล็กกล้าอย่างดี สีขาวเป็นมณี มีความยาวประมาณ ๑๐๐-๑๑๐ เซนติเมตร ด้ามยาวประมาณ ๓๑-๓๕เซนติเมตร ใบยาวประมาณ ๖๕-๖๗ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๒.๕-๓.๕ เซนติเมตร
สักการะพระแสงราชศัสตราประจำเมืองนครศรีธรรมราช     
 

สักการะพระแสงราชศัสตราประจำเมืองนครศรีธรรมราช

จังหวัดนครศรีธรรมราชได้รับพระราชทานพระแสงราชศัสตราประจำเมือง จากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๕๘ ณ พลับพลาในลานวัดพระมหาธาตุ บริเวณด้านพระวิหารหลวง เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินเลียบมณฑลปักษ์ใต้ พ.ศ.๒๔๕๘ ผู้รับพระราชทาน คือ อำมาตย์เอกพระยาประชากิจกรจักร(ทับ มหาเปาระยะ) ผู้ว่าราชการเมืองนครศรีธรรมราช
    

ลักษณะพระแสงราชศัสตราประจำเมืองนครศรีธรรมราช คือ
    ด้ามของฝักทองยาว ๑๐๓ ซ.ม.
    ด้ามยาว                    ๓๑   ซ.ม.
    ฝักยาว                     ๗๒    ซ.ม.
    ใบยาว                      ๖๕.๒ ซ.ม.
    ใบกว้าง                      ๒.๗ ซ.ม.
บนใบพระแสงจารึกข้อความเหมือนกันทั้งสองด้านว่า “เมืองนครศรีธรรมราช” ปลอกด้านซ้ายจารึก “๒๘/๕๒” 
    

ปัจจุบัน พระแสงราชศัสตราประจำเมืองนครศรีธรรมราช จะเก็บรักษาไว้ที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช (คลังจังหวัด) เมื่อใดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาประทับแรมที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ว่าราชการจังหวัดจะอัญเชิญพระแสงราชศัสตราประจำเมืององค์นี้ไปทูลเกล้าถวายและจะพระราชทานคืนเมื่อเสด็จพระราชดำเนินกลับ เช่น ครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินประพาสจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นครั้งแรก พ.ศ.๒๕๐๒ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายจันทร์ สมบูรณ์กุล ได้อัญเชิญพระแสงราชศัสตราทูลเกล้าฯ ถวาย ณ บ้านคลองปาง ตำบลกะปาง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช เขตติดต่อระหว่างจังหวัดตรัง และจังหวัดนครศรีธรรมราช และครั้งที่ ๒ เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๗ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จโดยรถไฟพระที่นั่ง จากสถานีจิตรลดาถึงสถานีนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๐๗ เวลา ๑๑.๒๕ น. นายสันต์ เอกมหาชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เฝ้ารับเสด็จและทูลเกล้าฯถวายพระแสงราชศัสตราประจำเมือง
    

ในปีหนึ่ง ๆ พระแสงราชศัสตราประจำเมือง จะได้รับการอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ สถานที่ประกอบพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ ๕ ธันวาคม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในพระราชพิธีดังกล่าวตลอดมา
    

นอกจากนี้ เว็บไซต์ http://www.nakhonsithammarat.go.th/prasang.php ของจังหวัดนครราชสีมา เผยแพร่ เอกสารประกอบการพระราชทานพระแสงราชศัสตราประจำเมืองนครศรีธรรมราช ในวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๔๕๘   ความว่า ...
    

"ที่เมืองนครศรีธรรมราชนี้ ตั้งแต่เคยได้เสด็จพระราชดำเนิมาครั้งก่อนแล้ว ก็ทรงรู้สึกว่าเป็นเมืองสำคัญในพระราชอาณาเขต เพราะฉะนั้น จึงได้มีพระราชประสงค์อยู่แล้วว่าจะเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเยี่ยมให้ทอดพระเนตรด้วยพระองค์อีกว่า ความเจริญของบ้านเมืองและความสุขสำราญของประชาชนเป็นอยู่อย่างไร เมื่อได้ทอดพระเนตรเห็นความเจริญของบ้านเมืองและราษฎรของพระองค์ ได้รับความร่มเย็น มีหน้าตามอันเบิอกบาน เป็นสุขสำราญ ก็ทรงมีพระราชหฤทัยยินดียิ่งนัก... และเพื่อแสดงน้ำพระราชหฤทัยหมายดีของพระองค์ที่จะทรงปกครองประชาชนให้ได้รับความร่มเย็นเป็นสุข จึงจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระแสงศัลตราซึ่งเป็นพระแสงของพระองค์ ไว้สำหรับเมืองนครศรีธรรมราชเป็นของต่างพระองค์ เป็นพยานแห่งพระราชอำนาจ เพื่อใช้ป้องกันสรรพอันตรายอันจะมาย่ำยีบีฑา และสำหรับผู้ปกครองใช้เป็นอำนาจปราบปรามผู้ทำร้ายแก่อาณาประชาชน
       

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้ว่าราชการเมืองและเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ที่ได้รับพระราชอำนาจแบ่งพระราชทาน ให้ใช้ในทางสุจริต และยุติธรรม ซื่อตรงต่อหน้าที่และโปรดเกล้าฯ ให้รู้สึกว่าไม่ใช่แต่ผู้ว่าราชการเมืองผู้เดียว หน้าที่ราชการแผนกต่างๆ ได้รับแบ่งพระราชอำนาจไว้ด้วยและให้เป็นเครื่องเตือนใจว่า ต่างได้รับภาระอันหนักเพื่อรักษาความสงบสุขสงบเรียบร้อยของประชาชนทั่วไป เมื่อประพฤติและคิดอยู่เช่นนี้คงมีความเจริญและความสุข ซึ่งพระราชทานพรให้มีความสุขศิริสวัสดิ์ทั่วกัน"

สักการะพระแสงราชศัสตราประจำเมืองนครศรีธรรมราช


   วันเดียวกันนี้ เมื่อเวลา 08.45 น. ที่ศาลาประชาคมโรงละคร องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)นครศรีธรรมราช นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคล และกล่าวถวายพระพรชัยมงคล เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี 42 พรรษา 3 มิถุนายน พุทธศักราช 2563 เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเฉลิมพระเกียรติ โดยมีแม่ทัพภาคที่ 4 หัวหน้าส่วนราชการพลเรือน ตุลาการ อัยการ ตำรวจร่วมพิธี ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีการตรวจคัดกรองผู้เข้าร่วมพิธี การเว้นระยะห่างทางสังคม(Social Distancing)
    

จากนั้นเดินทางไปที่วัดสวนพลาราม(สวน-พะ-ลา-ราม) ตำบลกำแพงเซา อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเป็นประธานจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ “เราทำความดีเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ “มีแล้วแบ่งปัน” เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และถวายเป็นพระราชกุศล  ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2563  ในโอกาสนี้ได้แจกถุงยังชีพให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อโควิด-19 และปรุงอาหารจากโรงครัวประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 1,000 กล่อง แจกจ่ายประชาชน