ทำความรู้จัก “กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ” National Guard ของสหรัฐ

02 มิ.ย. 2563 | 08:16 น.

รัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริการะบุชัดเจนว่า ห้ามทุกเหล่าทัพของกองทัพสหรัฐเคลื่อนไหวด้านความมั่นคงภายในประเทศ แต่ในยามคับขันประธานาธิบดี ก็มีอำนาจตาม กฎหมายปราบการจลาจล ซึ่งบัญญัติขึ้นในสมัยสงครามกลางเมือง สามารถสั่งให้ทหารในทุกเหล่าทัพ หรือใน กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ (บ้างก็เรียก “กองกำลังพิทักษ์ชาติ” หรือ National Guard) ให้มาปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความสงบภายในประเทศแบบเดียวกับตำรวจได้ ไม่ว่าจะเป็นการจับกุม ตรวจค้น หรือควบคุมการชุมนุมทางการเมือง

ทำความรู้จัก “กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ” National Guard ของสหรัฐ

กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ ไม่ใช่ทหารอาชีพ พวกเขาเป็นกองกำลังหน่วยพิเศษในระบบกำลังสำรองของกองทัพสหรัฐฯ ที่ อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของผู้ว่าการมลรัฐ และ สำนักงานกองกำลังพิทักษ์ชาติ หรือ National Guard Bureau ซึ่งเป็นหน่วยงานส่วนกลางของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แยกออกมาเป็น 2 เหล่าคือ กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิของกองทัพบกและกองทัพอากาศ

 

แม้จะได้รับการฝึกฝนแบบเดียวกับทหารที่ขึ้นทะเบียนประจำการเต็มเวลากับกองทัพอย่างเป็นทางการ และมีระบบอาวุธเหมือนกองทัพ แต่พวกเขา “ไม่ใช่ทหารอาชีพ” แม้ว่าบางรายจะสมัครใจไปรบในอัฟกานิสถานและอิรักมาแล้วก็ตาม กำลังพลของกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ สามารถประจำการเต็มเวลาหรือประจำการชั่วคราวได้ ปัจจุบันมีกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิประจำการใน 50 มลรัฐและเขตปกครองพิเศษของสหรัฐฯ กว่า 4.6 แสนนาย การเรียกใช้กำลังพลนี้ ผู้ว่าการมลรัฐจะเป็นผู้ออกคำสั่งผ่านผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิในมลรัฐนั้น ๆ เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่


ภารกิจส่วนใหญ่ของกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ จึงเป็นการรักษาความสงบและช่วยเหลือด้านความมั่นคงภายในรัฐที่ประจำอยู่เป็นหลัก หน้าที่หลักคือ การรักษาความสงบเรียบร้อยภายในมลรัฐตามคำสั่งของผู้ว่าการมลรัฐ เช่น การเข้าควบคุมสถานการณ์ในภาวะฉุกเฉิน อาทิ การจลาจล การก่อการร้าย และการบรรเทาสาธารณภัยจากภัยพิบัติต่าง ๆ ส่วนหน้าที่ในระดับชาติ ก็คือการปฏิบัติงานตามคำสั่งของรัฐบาลกลาง เช่น การรักษาความสงบเรียบร้อยหลังการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ

ทำความรู้จัก “กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ” National Guard ของสหรัฐ

ที่ผ่านมา กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ เคยเข้าควบคุมสถานการณ์ความวุ่นวายภายในประเทศมาแล้วหลายครั้ง เช่น ในปี 2513 มีการเข้าควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านสงครามเวียดนาม ที่มหาวิทยาลัยเคนท์สเตท มลรัฐโอไฮโอ ซึ่งครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 4 รายจากการใช้กระสุนจริงเข้าสลายการชุมนุม

 

จากฐานข้อมูลในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิสหรัฐ พบว่า เท่าที่ผ่านมาในรอบกว่า 1 ศตวรรษ เคยมีการใช้อำนาจประธานาธิบดี สั่งการเรียกพลจากกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ เข้าควบคุมเหตุการณ์ความไม่สงบภายในประเทศสหรัฐประมาณ 12 ครั้ง ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในสมัยการประท้วงเรียกร้องสิทธิพลเมือง

 

อาจกล่าวได้ว่า กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ  คือกองทหารของมลรัฐและเขตปกครองพิเศษของสหรัฐฯ ซึ่งมีหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยและบรรเทาสาธารณะภัยภายในมลรัฐเป็นหลัก ไม่ใช่การทำสงครามกับศัตรูภายนอกประเทศโดยตรง และแม้ว่าจะถูกฝึกหรือให้รับมือกับการจลาจลและประชาชนมาโดยเฉพาะ แต่การที่พวกเขาสามารถใช้อาวุธปราบปรามผู้ชุมนุมหรือใช้อาวุธในการควบคุมสถานการณ์ ก็อาจทำให้เกิดการสูญเสียถึงชีวิตขึ้นได้
ทำความรู้จัก “กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ” National Guard ของสหรัฐ
บางคนเรียกกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิว่า “ทหารบ้าน” ทำหน้าที่ควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อยในมลรัฐที่สังกัดอยู่ ส่วนหนึ่งก็เป็นประชาชนคนธรรมดาที่ไปรับการฝึกแล้วมาทำงานในค่ายเป็นบางเวลาเท่านั้น ต่างกับกำลังพลที่ทำเต็มเวลามักจะเป็นนายทหารประทวนและสัญญาบัตร


นายโรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ แถลงเมื่อวันอาทิตย์ (31 พ.ค.)ว่าการเคลื่อนไหวของกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิในรัฐต่าง ๆ ในเวลานี้ เป็นไปตามอำนาจอันชอบธรรมของผู้ว่าการรัฐและนายกเทศมนตรี เป้าหมายเพื่อปกป้องและรักษาความสงบในเมืองของตัวเอง และปฏิเสธกระแสข่าวว่า ประธานาธิดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการ "รวบอำนาจ" การบัญชาการกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิจากที่ขึ้นตรงกับผู้ว่าการรัฐ ให้มาอยู่ภายใต้คำสั่งจากส่วนกลางเป็นการชั่วคราว โดยนายโอไบรอันกล่าวว่า ทำเนียบขาวสนับสนุนการดำเนินงานของทุกรัฐ "ตามความเหมาะสม" ในการใช้อำนาจสั่งการกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดวานนี้ (1 มิ.ย.) ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ออกมาแถลงว่า สถานการณ์ประท้วงเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้นาย “จอร์จ ฟลอยด์” ชายผิวสีที่เสียชีวิตหลังจากตำรวจผิวขาวใช้หัวเข่ากดคอเขาไว้กับพื้นนานเกือบ 9 นาทีในเมืองมินนิอาโปลิส เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้ลุกลามการเป็นการจลาจลเรียกร้องความเท่าเทียมทางสีผิวไปทั่วประเทศ

 

“รัฐบาลไม่เคยขัดขวางการชุมนุมประท้วงและการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เป็นไปตามกรอบกฎหมาย แต่หลายวันที่ผ่านมามีการจี้ปล้น ทำร้ายร่างกาย ทำลายทรัพย์สินสาธารณะ ซึ่งถือเป็นการก่อการร้ายภายในชุมชน ผู้ที่เกี่ยวข้องกับพฤติการณ์ดังกล่าวต้องถูกลงโทษสถานหนักตามกฎหมาย”  ผู้นำสหรัฐประกาศกร้าว พร้อมมีคำสั่งเด็ดขาดให้นายกเทศมนตรีของเมืองต่างๆ และผู้ว่าการรัฐ ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นมากขึ้นจนกว่าความรุนแรงจะสงบลง

 

ไม่เช่นนั้น เขาจะประกาศคำสั่งเคอร์ฟิว “ในระดับรัฐบาลกลาง” และจะบังคับใช้กฎหมายปีค.ศ. 1807 หรือเมื่อ 213 ปีที่แล้ว เพื่อที่ประธานาธิบดีจะเป็นผู้สั่งเคลื่อนกำลังพลของกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิทั่วประเทศ เข้าควบคุมสถานการณ์

ทำความรู้จัก “กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ” National Guard ของสหรัฐ

อ่านเพิ่มเติม

“ทรัมป์”ขู่ใช้กฎหมาย 200 ปี สยบการจลาจลในสหรัฐ

“เคอร์ฟิว” เมืองใหญ่สหรัฐ ขอกองกำลังควบคุมสถานการณ์

“เทย์เลอร์ สวิฟต์” เปิดศึก “ทรัมป์” คนนับล้านกดไลค์

ประท้วง "สหรัฐ" ม็อบเดือดลามทั่ว ทวง “ความเป็นธรรม” แด่คนผิวสี  

เทย์เลอร์ สวิฟต์ ทวีตเดือด ขู่โหวตไล่ “ทรัมป์” พ้นตำแหน่งพ.ย.นี้